

- เผยปมสถานบันเทิง ขอให้พิจารณาเปิดบริการหลังสงกรานต์ ต้องรอดู 2 สัปดาห์จากนี้ว่าสถานการณ์จะรุนแรงเพิ่มขึ้นหรือไม่
- ประเมินตัวเลขผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจตะเพิ่มขึ้น แต่ไม่ถึงเส้นสีแดง คาดอยู่ระหว่างเส้นสีเหลืองและแดง
- มีความรุนแรงระดับปานกลาง แต่ไม่มาก ประมาณกว่า 1,000 คน
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 เม.ย.65 นี้ จะมีการประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เพื่อพิจารณามาตรการต่างๆ ร่วมกันและเสนอต่อ ศบค.ชุดใหญ่ ในวันที่ 22 เม.ย.65 โดยหลักๆ จะเสนอเรื่องการผ่อนคลายการเข้าประเทศในระบบ Test&Go จากเดิมที่ให้ตรวจ RT-PCR 1 ครั้งเมื่อมาถึงประเทศไทย ก็จะหารือว่าจะเสนอให้ปรับเป็นตรวจด้วย ATK หรือไม่ต้องตรวจหาเชื้อเลย ส่วนรายละเอียดแนวทางดำเนินการจะหารือในที่ประชุม ศปก.ศบค. เพื่อเสนอ ศบค.ตัดสินใจ
ขณะเดียวกันจะมีการเสนอปรับพื้นที่สีด้วย อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อในประเทศมีจำนวนมากกว่าคนที่เดินทางเข้าประเทศ ดังนั้นการผ่อนคลายเรื่องการเข้าประเทศก็คงไม่มีผลทำให้การติดเชื้อในประเทศเพิ่มมากขึ้นนัก
นอกจากนี้ในส่วนกรณีสถานประกอบการสถานบันเทิง ขอให้พิจารณาเปิดบริการช่วงหลังสงกรานต์นั้น นพ.โอภาสกล่าวว่า การประเมินหลังสงกรานต์ เราต้องดูใน 2 สัปดาห์จากนี้ว่าสถานการณ์จะรุนแรงเพิ่มขึ้นหรือไม่ โดยขณะนี้มาตรการในประเทศผ่อนคลายเยอะพอสมควรแล้ว ย้ำว่าต้องประเมิน 2 สัปดาห์นี้ว่า จะกระทบระบบสาธารณสุขหรือไม่ หากไม่มีอะไรก็จะค่อยๆ ผ่อนคลาย ซึ่งต้องขอดูข้อมูลอีก 1-2 สัปดาห์
ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วันนี้ (19 เม.ย.) สถานการณ์โควิด-19 ในไทย พบผู้เสียชีวิตมากสุด 129 คน ป่วยปอดอักเสบ 2,104 คน และใส่ท่อช่วยหายใจ 940 คน ถือว่าตัวเลขค่อนข้างสูง แต่ตัวเลขที่ปรากฏไม่ได้เป็นผลสืบเนื่องมาจากเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากสงกรานต์ผ่านแค่ 2 วัน โดยนับช่วงเทศกาลสงกรานต์คือระหว่างวันที่ 12-18 เม.ย. คาดว่าตัวเลขผู้ป่วยปอดอักเสบและใส่ท่อช่วยหายจะค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นแบบช้า ๆ จากผู้ป่วยสีเหลืองมาเป็นสีแดง
ทั้งนี้หากอาการรุนแรงมากถึงที่สุดก็เป็นสีดำ คือ เสียชีวิต โดยจะเห็นภายใน 7-8 วัน หรือประมาณต้นเดือนพ.ค. จะไม่ได้ขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากระยะฟักเชื้อของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน แม้จะสั้นลง แต่ต้องใช้เวลา ตั้งแต่เริ่มป่วย จนกระทั่งป่วยหนักประมาณ 8-10 วัน ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ยังเป็นกลุ่มคนผู้สูงอายุ 608
อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าตัวเลขผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ แม้จะเพิ่มขึ้น แต่ไม่ถึงฉากทัศน์ที่คาดการณ์ในเส้นสีแดง น่าจะอยู่ระหว่างเส้นสีเหลืองและแดง คือรุนแรงระดับปานกลาง แต่ไม่มาก ประมาณกว่า 1,000 คน