

- นักลงทุนคลายกังวลเงินเฟ้อพุ่ง หลังราคาน้ำมันเริ่มลดลง
- การเจรจาสันติภาพรัสเซียและยูเครนคืบหน้า ดันดัชนีปรับขึ้นแทบทุกหมวด
- ตลาดจับตาตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และตลาดแรงงาน
นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นแทบทุกกลุ่ม ยกเว้นกลุ่มพลังงาน หลังนายเมฟลุต คาวูโซกลู รมว.ต่างประเทศตุรกีกล่าวว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กรุงอิสตันบูลเมื่อวานนี้ มีความคืบหน้ามากที่สุดนับตั้งแต่ทั้งสองฝ่ายได้เริ่มการเจรจาเป็นต้นมา และมีโอกาสที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน จะพบปะกันในที่สุด
ด้านสำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานโดยอ้างกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า รัสเซียจะลดปฏิบัติการทางทหาร “ลงอย่างมาก” รอบกรุงเคียฟ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของยูเครน รวมทั้งเมืองเชอร์นิฮิฟ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความไว้วางใจระหว่างรัสเซียและยูเครน และเพื่อเอื้ออำนวยต่อการเจรจาสันติภาพในครั้งต่อไปของทั้งสองฝ่าย
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์พุ่งขึ้น 2.85% โดยหุ้นโจนส์ แลง ลาซาลล์ พุ่งขึ้น 3.7% หุ้นอเมริกัน เรียลตี้ อินเวสเตอร์ส พุ่งขึ้น 4.13% หุ้นอาร์มาดา ฮอฟเฟอร์ พร็อพเพอร์ตีส์ ดีดขึ้น 1.51% หุ้นฮัดสัน แปซิฟิก พร็อพเพอร์ตี้ส์ พุ่งขึ้น 3.71% ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 2.06% โดยหุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 3.52% หุ้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 1.91% หุ้นไมโครซอฟท์ ปรับตัวขึ้น 1.52% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ พุ่งขึ้น 2.8%
หุ้นโมเดอร์นา พุ่งขึ้น 4.37% หลังจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐ อนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็ม 4 ของบริษัทโมเดอร์นา ในกลุ่มผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามทิศทางราคาน้ำมัน โดยหุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ดิ่งลง 2.81% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 0.53% หุ้นเบเกอร์ ฮิวจ์ ปรับตัวลง 0.89% หุ้นเชฟรอน ร่วงลง 1.22%
ด้านตัวเลจเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 107.2 ในเดือนมี.ค. ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 107.5 จากระดับ 105.7 ในเดือนก.พ. โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง รวมทั้งการชะลอตัวของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐ
ขณะที่ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ บ่งชี้ว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 19.2% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 18.9% ในเดือนธ.ค. โดยราคาบ้านยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ของผู้ซื้อบ้าน และสต็อกบ้านที่ตึงตัว แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองดีดตัวขึ้นก็ตาม
นักลงทุนจับตาตัวเลขการคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 4/2564 รวมทั้งการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวดาวโจนส์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 460,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งน้อยกว่าในเดือนก.พ.ที่พุ่งขึ้น 678,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนมี.ค.จะลดลงสู่ระดับ 3.7%