

- ลุยเจรจาจีนลดอุปสรรคนำเข้าหลังคุมเข้มด่านชายแดน
- เจรจาลาว-เวียดนามอำนวยความสะดวกผลไม้ผ่านด่าน
- หวังดันส่งออกปีนี้ให้โตตามเป้า 15% เฉียด 3 แสนล้านบาท
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามความคืบหน้ามาตรการแก้ไขปัญหาผลไม้ ปี 65 และการแก้ไขปัญหาการส่งออกผลไม้ว่า ได้ประชุมร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน โดยเน้นแก้ปัญหาส่งออกผลไม้ไปจีน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกใหญ่ของไทย และปัจจุบันยังติดขัดเพราะจีนมีนโยบายซีโร โควิด หรือไม่ให้มีโควิดระบาดในประเทศ จึงต้องเข้มงวดกับการขนส่งสินค้าผ่านด่านชายแดนต่างๆ ซึ่งที่ประชุมมีมติ 8 เรื่องที่จะต้องเร่งดำเนินการแก้ปัญหา เพื่อให้การส่งออกผลไม้ไปจีนปีนี้ ขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ 15% คิดเป็นมูลค่า 154,978 ล้านบาท จากปี 64 ที่ได้ 134,764 ล้านบาท

โดยทั้ง 8 เรื่อง ได้แก่ 1.มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ และทูตเกษตรของไทยที่ประจำในจีน เจรจากับทางการจีนในการเร่งรัดเปิดด่านตงชิง ที่ปัจจุบัน ยังปิดอยู่ รวมถึงขยายเวลาเปิด-ปิดด่าน 2.มอบหมายทูตพาณิชย์ ทูตเกษตร เจรจากับทางการลาวให้อำนวยความสะดวกให้รถสินค้าของไทยที่จะผ่านด่านไปยังจีนโดยให้ถ่ายรถครั้งเดียวที่ด่านบ่อเต็นของลาว ไม่ต้องถ่ายรถที่เชียงของ และให้จัดหารถที่จะถ่ายสินค้าให้มากขึ้น
3.ให้ทูตพาณิชย์ และทูตเกษตรเจรจากับทางการลาว ให้อำนวยความสะดวกให้กับผลไม้ไทยที่ขนส่งโดยรถไฟลาว-จีน เมื่อไปถึงด่านรถไฟโม่ฮานของจีนแล้ว ไม่ต้องตรวจสินค้า ให้ตรวจที่ด่านคุณหมิงแทน หรือตรวจที่ด่านบ่อเต็นของลาว เพราะด่านโม่ฮ่าน ยังสร้างไม่เสร็จ หากให้ตรวจที่โม่ฮานอาจล่าช้า 4.ให้กรมการค้าต่างประเทศ และภาคเอกชนร่วมกันเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่ออนุญาตให้เรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่มาเทียบท่าให้มากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน

5.มอบให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เจรจากับสายการบินต่างๆ เพื่อช่วยลดต้นทุนการขนส่งผลไม้ทางอากาศ6.มอบให้ทูตพาณิชย์ และเกษตร เจรจากับทางการเวียดนาม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผลไม้ไทยที่จะส่งไปจีนผ่านด่านของเวียดนาม และให้ช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัดหน้าด่านด้วย 7.เจรจากับทางการจีน เมื่อพบคนขับรถส่งผลไม้ไทยติดโควิด ขออย่าปิดด่านชายแดน เพราะจะทำให้การส่งออกชะงัก และ8.ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายแรงงานเก็บผลไม้ และรวบรวมผลไม้ในประเทศ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลนแรงงาน
“ทั้ง 8 มาตรการถือเป็นการบ้านเสริมที่จะทำเพื่อแก้ปัญหาส่งออกผลไม้ไทยไปจีนในปีนี้ แต่ก่อนหน้านี้ ได้กำหนด17+1 มาตรการในการบริหารจัดการผลไม้ปี 65 เชิงรุกไว้แล้ว โดยเฉพาะมาตรการหาตลาดทั้งในประเทศ และส่งออกล่าสุด สามารถหาตลาดได้แล้วรวมกว่า 450,000 ตัน โดยปีนี้ ตั้งเป้าส่งออกผลไม้ทุกชนิด ทั้งผลไม้สด ผลไม้แช้เย็นแช่แข็ง ผลไม้แห้ง และผลไม้แปรรูป เพิ่มขึ้น 15% จากปี 64 คิดเป็นมูลค่า 287,500 ล้านบาท ส่วนจีนตั้งเป้าส่งออกเพิ่ม 15% มูลค่า 154,978 ล้านบาท”

สำหรับผลไม้ปีนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) คาดว่า จะมี 5.4 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 13% จากปี 64 โดยทุเรียนเพิ่ม 22% มังคุด เพิ่ม 43% ลำไย เพิ่ม 7.8% เงาะ เพิ่ม 6% มะม่วง เพิ่ม 5% ลิ้นจี่ เพิ่ม 4% ลองกอง เพิ่ม 1% โดยผลผลิตทั้งหมด แบ่งเป็น ส่งออก 70% ตลาดสำคัญ คือ จีน สัดส่วน 65% สหรัฐอเมริกา 10% ฮ่องกง 4% เวียดนาม3% และมาเลเซีย 1% ขณะที่ตลาดในประเทศ 30% นั้น ใช้กลไกระบายผ่านห้าง ตลาด รถเร่ ร้านอาหารและแปรรูป