“บิตคอยน์” ยังมาแรง! ขึ้นนำซื้อขายสูงสุดบนเว็บเทรดไทย 3.5 หมื่นล้าน

  • มูลค่าตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกอยู่ที่ 1.7 ล้านล้านดอลลาร์
  • ซื้อขายต่อวัน 7 หมื่นล้านดอลลาร์
  • จำนวนเปิดบัญชีซื้อขายเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2.74 แสนบัญชี

วันที่ 19 มี.ค.2565 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เผยว่า ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกมีมูลค่าตาม Market cap หรือ มูลค่าตามราคาตลาด อยู่ที่ประมาณ 1.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีมูลค่าการซื้อขายล่าสุดอยู่ที่ 7.03 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน

โดยสินทรัพย์ดิจิทัลที่มี Market Cap สูงสุดนำโดยบิตคอยน์ (Bitcoin) 42.66% ตามด้วยอีเธอร์เรียม (Ethereum) 17.80% และธีเทอร์ (Tether) อยู่ที่ 4.63% ส่วนบีเอ็นบี (BNB) และ USD Coin มี Market Cap. อยู่ที่ 3.15% , และ 3.03% ตามลำดับ (ข้อมูล ณ 14 มี.ค.65)

ในปี 2565 มูลค่าซื้อขายสะสมแยกตามประเภทสินทรัพย์ดิจิทัลพบว่าค่อนข้างกระจายตัว โดยสัดส่วนการซื้อขายสูงสุดบนเว็บเทรด หรือ Exchange ของไทยสูงสุดนำโดยบิตคอยน์อยู่ที่ 3.53 หมื่นล้านบาท ตามด้วยธีเทอร์ (Tether) 3.52 หมื่นล้านบาท ส่วนเหรียญคับ (KUB) อยู่ที่ 2.74 หมื่นล้านบาท และอีเธอเรียม มีมูลค่าซื้อขายอยู่ที่ 2.45 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้พบว่าสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างคริปโตเคอร์เรนซี ยังคงติดลบต่อเนื่อง นำโดยอีเธอร์เรียมติดลบมากที่สุดอยู่ที่ -33.97% ตามด้วยเหรียญคับ (Kub) -18.29% ส่วน Bitcoin และ XRP ติดลบ -16.22% และ -8.17% ตามลำดับ

ส่วนถ่านหิน (Coal) ยังคงให้ผลต่อสูงสุดตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 107.78% ตามด้วยน้ำมัน (Oil) 42.01% และอลูมิเนียม (Aluminium) ที่ 15.88% และทองคำ 7.51% ส่วนดัชนีหุ้นไทย (SET) ยังติดติดลบ -0.61%

ทั้งนี้พบว่ามูลค่าซื้อขายมีแนวโน้มลดลงตั้งแต่เดือนพ.ย.64 โดยมีมูลค่าซื้อขาย (ณ 14 มี.ค.65) อยู่ที่ 4.3 หมื่นล้านบาทในช่วงต้นเดือน มี.ค. ส่วนใหญ่มาจากบุคคลธรรมดาในประเทศสูงถึง 2.5 หมื่นล้านบาท บุคคลธรรมดาต่างประเทศ 4.3 หมื่นล้านบาท และนิติบุคคลต่างประเทศ 8 พันล้านบาท

ขณะที่จำนวนบัญชีซื้อขาย (ณ 14 มี.ค.65) อยู่ที่ 2.74 แสนบัญชี ซึ่งพบว่าการซื้อขายของบุคคลธรรมดาในประเทศเดือน ก.พ.65 ลดลง 28% จากเดือนม.ค. โดย ณ ก.พ.65 มีจำนวนบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดของลูกค้า 2,594,089 บัญชี

โดยนิติบุคคลต่างประเทศยังเป็นกลุ่มที่มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อบัญชีสูงสุด (ณ 14 มี.ค.65) อยู่ที่ 270.4 ล้านบาท ทั้งนี้ในเดือนมี.ค.นิติบุคคลต่างประเทศมียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท ในขณะที่บุคคลธรรมดาต่างประเทศมียอดขายสุทธิ 9,000 ล้านบาท