ดาวโจนส์ปรับฐาน หลังนักลงทุนทำกำไรเคลื่อนไหวในแดนลบกว่า 130 จุด



.มีแรงเทขายทำกำไร ดันดัชนีดาวโจนส์เคลื่อนไหวในแดนลบ หลังพุ่งแรงในช่วงก่อนหน้า
. นักลงทุนเเริ่มไม่แน่ความคืบหน้าการเจรจาสันติภาพรัสเซียและยูเครน
. ประธานเฟด เซนต์หลุยส์ ชี้หากอยากสกัดเงินเฟ้อเฟดควรปรับขึ้นดอกเบี้ย 12 ครั้งในปีนี้

จุด ลดลง
132.46 จุด หรือ -0.38% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 13,685.02 จุด เพิ่มขึ้น 70.24 จุด หรือ +0.52% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,408.20 จุด ลดลง 3.47 จุด หรือ -0.08%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับฐานเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยมีแรงขายทำกำไรออกมา หลังดัชนีพุ่งขึ้นกว่า 1,500 จุด ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ดัชนีแนสแด็ก ยังสามารถเคลื่อนไหวในแดนบวกได้

นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน ขณะที่นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวปฏิเสธรายงานข่าวจากสื่อที่ระบุว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนได้ประสบความคืบหน้าอย่างมาก และทั้งสองฝ่ายใกล้บรรลุข้อตกลง

หุ้นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยปรับตัวดีขึ้น หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมครั้งที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวในวันนี้ว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 12 ครั้งในปีนี้ เพื่อแสดงว่าเฟดมีความจริงจังในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ โดยเงินเฟ้อที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีกำลังส่งผลกระทบต่อประชาชน โดยเขาต้องการให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้อยู่สูงกว่า 3% จากระดับใกล้ 0% ในขณะนี้

ก่อนหน้านี้ นายบูลลาร์ดเป็นเจ้าหน้าที่เฟดเพียงรายเดียวที่ลงมติให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมสัปดาห์นี้ ขณะที่เฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 0.25-0.50% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2561

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาวันนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองดิ่งลง 7.2% สู่ระดับ 6.02 ล้านยูนิตในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.10 ล้านยูนิต เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านลดลง 2.4% ในเดือนก.พ.

ยอดขายบ้านมือสองได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี และสต็อกบ้านในตลาดที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งทำให้ราคาบ้านพุ่งขึ้น