

- มุ่งลดผลกระทบของต้นทุนเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง
- ลั่นไม่ง่าย หากจะทดแทนการส่งออกน้ำมันดิบของรัสเซียทั้งหมด
- ชี้มีน้ำมันตกค้างประมาณ 3 ล้านบาร์เรล เนื่องจากผู้ซื้อในยุโรปปฏิเสธซื้อน้ำมันจากรัสเซีย
นายอามอส โฮคสไตน์ ที่ปรึกษาระดับอาวุโสของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันที่ 8 มี.ค. ว่า สหรัฐฯและประเทศต่างๆ จะพิจารณาระบายน้ำมันจากคลังสำรองเพิ่มเติม หากมีความจำเป็น
ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ ได้เปิดเผยถ้อยแถลงของนายโฮคสไตน์ว่า คณะบริหารภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจไบเดน มุ่งมั่นที่จะลดผลกระทบของต้นทุนเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังสหรัฐฯ และพันธมิตรออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย โทษฐานที่รัสเซียรุกรานโจมตียูเครน โดยได้กล่าวเสริมว่าไม่ง่ายนัก หากจะทดแทนการส่งออกน้ำมันดิบของรัสเซียทั้งหมด
ทั้งนี้สหรัฐฯ และบรรดาประเทศสมาชิกสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้เห็นพ้องต้องกันว่า จะระบายน้ำมันดิบในคลังสำรอง 60 ล้านบาร์เรล เพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันที่แพงขึ้น
ทั้งนี้นายโฮคสไตน์ ยังได้กล่าวในการประชุมพลังงาน CERAWeek ในเมืองฮิวสตัน ด้วยว่า หากเราจำเป็นต้องผนึกกำลังกับพันธมิตรเพื่อดำเนินการบางสิ่งอีกครั้ง เราก็จะทำ
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทำเนียบขาวไม่ต้องการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันและก๊าซของรัสเซียโดยตรง เนื่องจากกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคทั่วโลก อย่างไรก็ดี ผู้ซื้อพลังงานรัสเซียจำนวนมากได้ออกมาตรการคว่ำบาตรเอง โดยหลีกเลี่ยงการซื้อน้ำมันของรัสเซีย เพราะเกิดความไม่พอใจเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน
นายโฮคสไตน์ ยังประเมินด้วยว่า มีน้ำมันตกค้างอยู่ประมาณ 3 ล้านบาร์เรลในขณะนี้ เนื่องจากผู้ซื้อในยุโรปและสถานที่อื่นๆ ปฏิเสธที่จะซื้อน้ำมันจากรัสเซีย