“รัฐ-เอกชน” เกาะติดสถานการณ์สงคราม “ยูเครน-รัสเซีย” หวั่นราคาน้ำมันพุ่ง!



  • เผย 2 ประเทศเป็นคู่ค้าไทยนักท่องเที่ยวก็มาเยอะ
  • จับตาราคาน้ำมันพุ่งแตะระดับ 120 เหรียญสหรัฐฯ
  • เตือนนักลงทุนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า กรณีความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนนั้น ก็คงมีผลกระทบต่อราคาน้ำมันแน่นอน ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งขึ้นอยู่กับการเจรจาระหว่างกัน หากสู้รบกันจริง นอกจากราคาน้ำมันแล้ว ก็ต้องมีผลกระทบต่อไทยแน่ เพราะทั้ง 2 ประเทศ เป็นคู่ค้าของไทย และที่สำคัญนักท่องเที่ยวทั้งยูเครนและรัสเซีย มาเที่ยวไทยจำนวนมาก 

“เรื่องราคาน้ำมัน เป็นเรื่องต้องติดตาม  ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า จะประมาณเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับผู้เชี่ยวชาญราคาน้ำมัน แต่ขณะนี้ราคาน้ำมันก็อยู่ที่ประมาณ 90-100 เหรียญสหรัฐฯ ก็อยู่ในขอบเขตกองทุนน้ำมันจะบริหารจัดการได้  กระทรวงการคลังก็เข้าไปช่วยระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ถ้าสถานการณ์รุนแรงขึ้น ก็คงต้องติดตามตลอดเวลา”

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย และประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ต้องเกาะติดสถานการณ์และจับตาการแบ่งขั้วของกลุ่มพันธมิตร ประเทศคู่ค้า เทคโนโลยี เพราะมีผลต่อห่วงโซ่อุตสาหกรรม (ซับพลายเชน) และความต้องการ (ดีมานด์)​ ของแต่ละกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบตามมา แต่ส่ิงที่จะกระทบแน่นอนคือ ราคาน้ำมัน ที่ปรับสูงขึ้น ซึ่งมีผลกระทบมากพอสมควร แต่เชื่อว่าจะไม่รุนแรงและไม่บานปลาย และจะต้องติดตามความเคลื่อนไหว กลุ่มประเทศตะวันตก และพันธมิตรรัสเซีย เพราะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวเศรษฐกิจโลก

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย  กล่าวว่า กรณีความขัดแย้งของยูเครน-รัสเซีย ​นั้น หอการค้าฯ ได้ติดตามสถานการณ์​ใกล้ชิด  ส่วนจะทำให้น้ำมันถึง 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลหรือไม่นั้น ถ้าไม่มีสงครามก็คาดว่าจะไม่ถึง เพราะถ้าน้ำมันขึ้น 1 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล น้ำมันในไทยจะมีต้นทุนสูงขึ้น 50 สตางค์ทันที  และถ้าเกิดมีสงครามจริง คาดว่าราคาน้ำมันจะสูงถึง 120 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันในประเทศเพิ่มขึ้นอีก 6 บาท แต่หอการค้าฯ มองว่าไม่น่ามีสงครามเกิดขึ้น

นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)​ กล่าวว่า ต้องไปดูเส้นทางการบินระหว่างประเทศว่า มีผลกระทบต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยว ที่จะมาท่องเที่ยวในประเทศไทยหรือไม่ซึ่งต้่องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้ยังประเมินสถานการณ์ไม่ได้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะลดลงหรือไม่ แต่นักท่องเที่ยวจากยูเครนและรัซเสียลดลงแน่นอน และอาจกระทบเป้าหมายการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปี 

นายภากร ปิตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า นักลงทุนให้ติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซีย อย่างใกล้ชิด เนื่องจากไม่สามารถประเมินได้ว่า จะรุนแรง และขยายวงกว้าง มากน้อยแค่ไกน อย่างไรก็ตามความขัดแย้งที่เกิดขึ้น กระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะน้ำมันดังนั้นขอให้นักลงทุน ฟังการประเมินสถานการณ์ จากนักวิเคราะห์อย่างใกล้ชิด