

- ลุยปรับ Portfolio มุ่งลดสินค้าคงค้าง เพิ่มสัดส่วนกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์
- ผนึกกำลังด้านอสังหาฯ-รพ.วิมุต มอบความต่างให้บริการศูนย์ดูแลผู้ป่วย-ผู้สูงวัยในโครงการ
- เดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการนำนวัตกรรมมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ
นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH เปิดเผยว่าแผนการดำเนินงานในปี 65 นี้ พฤกษาได้วางกลยุทธ์ไว้ 4 ข้อหลัก อันประกอบด้วย 1.ปรับ Portfolio มุ่งลดสินค้าคงค้าง เพิ่มสัดส่วนกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์บ้านระดับพรีเมียม 2.เสริมแกร่งธุรกิจหลัก ด้วยการจัดสรรที่ดินในมือ 157 ผืน(มูลค่า 15.4 พันล้านบาท) บริหารโครงการที่อยู่อาศัยระหว่างการพัฒนา 145 โครงการ และมียูนิตพร้อมอยู่ที่พร้อมแปลงเป็นรายได้ 2,300 ยูนิต 3.ความร่วมมือ (Synergy) ทั้งกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโรงพยาบาลวิมุตในเครือเอง ที่จะเปิดให้บริการศูนย์ดูแลผู้ป่วยและผู้สูงวัยในโครงการ และ 4.การสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านการนำนวัตกรรมมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ตามหลัก ESG และการลงทุนในCorporate Venture Fund
“ปีนี้บริษัทฯ วางงบประมาณไว้ 3,500 ล้านบาท ในการมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่นอกเหนือจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตามเทรนด์โลกอนาคต ในรูปแบบต่างๆ ทั้งการลงทุน การร่วมเป็นพันธมิตร และการทำ Outside-in Innovation โดยมุ่งเน้นใน 2 ด้านที่จะมาสนับสนุนธุรกิจหลัก คือด้าน PropTech เช่น โซลูชั่นที่มุ่งส่งเสริมการสร้างประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า การขายและการตลาดดิจิทัล Smart Home IOT Senior Living / Nursing Home เป็นต้น และ ด้าน Health Tech มุ่งเน้นแพลตฟอร์ม เกี่ยวกับบริการทางการแพทย์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานธุรกิจสุขภาพ (Healthcare Supply Chain) อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพเป็นต้น” นายอุเทน กล่าว
นายอุเทน กล่าวต่อว่า โดยทั้งหมดต้องคำนึงถึงการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา พฤกษาได้ลงทุนในบริษัทชั้นนำด้านธุรกิจ Clinical Laboratories, Digital Heath และ Genomic Labs ที่ประเทศสิงคโปร์ อีกทั้งยังมีการจัด Bootcamp เพื่อคัดเลือกทีม External Venture Building จากทีมที่สมัครเข้ามามากกว่า 100 ทีม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับการลงทุนสตาร์ทอัพในต่างประเทศ คาดว่าจะเริ่มลงทุนในเดือนได้ในเดือน มี.ค.นี้
“ทั้งหมดที่พฤกษากำลังเร่งดำเนินการอยู่นี้ จะเป็นการต่อห่วงโซ่ธุรกิจของพฤกษา โฮลดิ้ง ให้แข็งแกร่งขึ้น จากความร่วมมือกันระหว่างองค์กรและ Innovation Technology ของบริษัท Startup ได้เป็นอย่างดี” นายอุเทน กล่าว

ด้านนายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือPSH กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายในปี 65 ไว้ที่ 31,000 ล้านบาท หรือเติบโต 23% จากปีก่อน ที่ทำยอดขายได้25,400 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทวางแผนเปิดโครงการใหม่ปี 65 ไว้ 31 โครงการ มูลค่ารวม 16,300 ล้านบาท โดยยังคงเน้นการเปิดโครงการแนวราบ บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม เป็นหลักอยู่ เนื่องจากยังเป็นตลาดที่ลูกค้ายังมีความสนใจเลือกซื้อต่อเนื่อง จากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ก็ทำให้ลูกค้ามองหาที่อยู่อาศัยที่เป็นส่วนตัว มีพื้นที่ทำงาน ลดการสัมผัสร่วมกับผู้อื่นมากขึ้น ซึ่งโครงการแนวราบจึงต้องโจทย์ในจุดนี้ได้ดี
ทั้งนี้โครงการทั้ง 31 โครงการที่เปิดในปีนี้ จะแบ่งเป็นโครงการทาวน์เฮาส์ 22 โครงการ บ้านเดี่ยว 6 โครงการ ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมในปี 65 จะเปิดเพียง 3 โครงการ
นายปิยะ กล่าวว่า การเปิดโครงการแนวราบในปีนี้จะเน้นไปที่กลุ่มระดับบนมากขึ้น โดยตลาดทาวน์โฮมที่จะเปิดตัวเพิ่มขึ้นจะเป็นแบรนด์ PATIO ในระดับราคา 4-5 ล้านบาท ซึ่งจะเข้ามาตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่เริ่มมีรายได้ในระดับที่สูง ซึ่งมีความต้องการทาวน์เฮาส์ที่เดินทางสะดวก สามารถทำเป็นโฮมออฟฟิศได้ ส่วนบ้านเดี่ยวจะเดินเกมบุกด้วยแบรนด์ The Palm ในระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งตลาดในกลุ่มนี้ถือว่ายังมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงนี้ แม้สภาวะเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร ก็จะได้รับผลกระทบน้อย ทำให้เป็นตลาดที่น่าสนใจอยู่
สำหรับตลาดคอนโดมิเนียมในปีนี้ บริษัทฯเล็งเปิด 3 โครงการ จะอยู่ในระดับราคา 2-4 ล้านบาท โดยเป็นการพัฒนาโครงการเฟสต่อขยายของโครงการเดิมที่ขายใกล้หมดแล้วจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ Plum รามอินทราเฟส 2 โครงการ Privacy เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ เฟส 2 และอีก 1 โครงการ บนทำเลที่บริษัทฯ มีที่ดินอยู่แล้ว โดยเลื่อนการเปิดมาในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คือ โครงการ Plum บางพลัด
“ยอมรับว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตลาดคอนโดมิเนียมมีการชะลอตัวลงมาก ทั้งด้านการเปิดตัว และยอดขาย โดยผู้ประกอบการต่างเร่งระบายสต็อกที่มีอยู่ในมือ โดยเฉพาะคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้า ซึ่งวิกฤตโควิด-19 ก็เป็นตัวฉุดทำให้ตลาดคอนโดฯชะลอตัว ลูกค้าไปมองหาซื้อบ้านมากขึ้น เพราะมองว่าตอบโจทย์การชีวิตมากกว่า ปลอดภัยกว่า” นายปิยะ กล่าว
ทั้งนี้เดิมทีพฤกษาถือเป็นเจ้าตลาดในกลุ่มคอนโดมิเนียมราคาต่ำกว่า 1 ล้าน หรือราคา 1 ล้านบาทต้นๆ ซึ่งฐานลูกค้าในกลุ่มนี้มีจำนวนมาก ตลาดมีความต้องการสูง แต่ด้วยสภาวะเศรษฐกิจ ปัญหาหนี้ครัวเรือน ก็ทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้มียอดถูกปฏิเสธสินเชื้อเป็นจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งก็ทำให้ในขณะนี้บริษัทฯ ยังคงชะลอการพัฒนาคอนโดฯ ในระดับราคานี้ออกไปก่อน
นายปิยะ กล่าวต่อว่า ปี 65 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดโอนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งยังคงเป็นรายได้หลักของบริษัทฯไว้ที่ 33,000 ล้านบาท หรือเติบโต 18% จากปีก่อนที่มี 28,000 ล้านบาท โดยปีนี้จะมีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่เตรียมโอนอีก 7 โครงการ มูลค่ารวม 2,900 ล้านบาท ซึ่งจะรองรับรายได้ในปีนี้
นอกจากนี้ในช่วง 8 ไตรมาสที่ผ่านมา ด้วยการวางกลยุทธ์ด้านราคา ลุยอัดโปรโมชั่น ทำให้บริษัทฯ สามารถลดสินค้าคงค้างไปได้จาก 23,300 ล้านบาท เหลือเพียง 7,500 ล้านบาท โดยในไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทฯ ยังคงจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่อเนื่องกับแคมเปญ “มั่งมีศรีสุข” มอบอั่งเปาและข้อเสนอพิเศษ อาทิ อยู่ฟรี สูงสุดนาน 24 เดือน สิทธิส่วนกลางฟรี สูงสุดนาน 36 เดือน หรือ ฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอน โดยแคมเปญนี้เริ่มตั้งแต่วันนี้ – 31 มี.ค.65
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ปัจจุบันมีอยู่ 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยโอนในปีนี้14,000 ล้านบาท แบ่งเป็นจากโครงการแนวราบ 3,000 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 11,000 ล้านบาท โดยปี 65 นี้บริษัทฯ ตั้งงบซื้อไว้ที่ 3,000-5,000 ล้านบาท
น.พ.กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด บริษัทในเครือ PSH กล่าวว่า รายได้ของธุรกิจเฮลท์แคร์ของบริษัทฯ ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 700 ล้านบาท โดยรายได้ยังคงมาจากการให้บริการของโรงพยาบาลวิมุต ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือน พ.ค. 64
“ยอมรับว่ารายได้ที่ผ่านมา ได้ผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 อยู่บ้างในช่วงต้นปี อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลวิมุติเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ซึ่งสามารถสร้างรายได้เข้ามาให้กับโรงพยาบาลได้ในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 เช่นกัน” น.พ.กฤตวิทย์ กล่าว
สำหรับในปี 65 ธุรกิจเฮลท์แคร์ของบริษัทฯ จะยังคงมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมด้าน Digital Healthtech เช่น แอปพลิเคชั่น Telemedicine และการบริการที่ตอบรับการดูแลผู้ป่วยกลุ่ม NCDs เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และเทรนด์การใช้ชีวิตของผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ล่าสุดโรงพยาบาลวิมุต ได้ออกโปรแกรม Total Senior Solution เพื่อดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นบริการดูแลผู้สูงอายุถึงบ้าน โดยแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว โดยโรงพยาบาลวิมุต ได้ร่วมกับพฤกษา ปรับฟังก์ชั่นบ้านให้เหมาะกับผู้สูงวัย การออกแบบให้มีทางลาดสำหรับรถเข็น การติดตั้งราวจับภายในบ้าน ที่นั่งอาบน้ำ พื้นกันกระแทก โดยเริ่มทำแล้วในโครงการบ้านของพฤกษา
น.พ.กฤตวิทย์ กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการ ViMUT Health Center ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาด 50 เตียง ได้เริ่มดำเนินการแห่งแรกแล้ว ที่โครงการพฤกษา อเวนิว บางนา-วงแหวน โดยจะเปิดให้บริการในช่วงเดือนส.ค. 65 นี้ อีกทั้งยังมีแผนที่พัฒนาศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในโครงการคอนโดมิเนียมของพฤกษา บนทำเลในเมืองที่มีศักยภาพในอนาคตอีกด้วย