ดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 270 จุด ตอบสนองท่าทีรัสเซียยังไม่บุกยูเครน



.รัสเซียแถลงว่า ทหารบางส่วนที่ติดกับชายแดนยูเครนได้ถอนกำลังเพื่อกลับสู่ฐานทัพแล้ว
.นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้น หลังคลายกังวลความขัดแย่งยังไม่ปะทุ
.ตลาดจับตาทิศทางดอกเบี้ย หลังเงินเฟ้อผู้ผลิตปรับสูงกว่าคาด

เมื่อเวลาประมาณ 22.05 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ34,844.54 จุด เพิ่มขึ้น 278.37 จุด หรือ +0.81% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,446.92 จุด เพิ่มขึ้น 45.25 จุด หรือ +1.03% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ระดับ14,033.73 จุด เพิ่มขึ้น 242.81 จุด หรือ +1.76%

นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นหลังคลายกังวลสงครามยูเครน-รัสเซียอาจจะไม่ปะทุในเร็ววันนี้ หลังกระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า ทหารรัสเซียบางส่วนทางตอนใต้และตะวันตกที่ติดกับชายแดนยูเครนได้ถอนกำลังเพื่อกลับสู่ฐานทัพแล้ว หลังเสร็จสิ้นภารกิจซ้อมรบ โดยก่อนหน้านี้รัสเซียได้ตรึงกำลังทหารกว่า 100,000 นายตามแนวชายแดนยูเครน ทำให้เกิดความหวั่นวิตกว่ารัสเซียจะบุกโจมตียูเครนในไม่ช้า

อย่างไรก็ดี หนังสือพิมพ์เดอะ มิร์เรอร์ ของอังกฤษ รายงานโดยอ้างข่าวกรองระบุว่า รัสเซียเตรียมโจมตียูเครนในวันพรุ่งนี้ (16 ก.พ.) โดยจะมีการใช้เครื่องบินรบและขีปนาวุธยิงถล่มฐานทัพของยูเครนในกรุงเคียฟ รวมทั้งที่ทำการของรัฐบาล ก่อนที่จะส่งหน่วยรถถังบุกข้ามพรมแดนยูเครน ขณะที่เรือรบสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกของรัสเซียจะรุกคืบจากชายฝั่งทางใต้ของประเทศแม้มีรายงานว่ารัสเซียได้ถอนกำลังทหารบางส่วนที่ติดกับชายแดนยูเครนแล้ว

เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งขึ้น 9.7% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.1% หลังจากดีดตัวขึ้น 9.8% ในเดือนธ.ค.

หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น หุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มธุรกิจเรือสำราญ ปรับตัวขึ้น หลังมองเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำเดือนม.ค.ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์, ซิตี้กรุ๊ป และแบงก์ ออฟ อเมริกาคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 7 ครั้งในปีนี้ โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25% ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดพุ่งแตะ 1.75-2.00% ในปลายปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 0.00-0.25%

หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาด บ่งชี้ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมทั้ง 7 ครั้งที่เหลือในปีนี้ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมี.ค.