กกต. ลั่นพร้อมจัดเลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักร เชื่อประชาชนตื่นตัวมากกว่าครั้งก่อน คาดรวมผลเสร็จก่อน 4 ทุ่ม



วันนี้ (27 ม.ค.65) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้ง ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 9 หลักสี่-จตุจักร ที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 ม.ค.65 ว่า มีความพร้อม 100% โดยได้มีการซักซ้อมทั้งการประมวลผลคะแนนการลงคะแนนที่ถูกต้องชอบธรรมตามระเบียบแบบแผน โดยจะมีการซักซ้อมเน้นย้ำประธาน กปน.ในแต่ละหน่วยเลือกตั้ง เกี่ยวกับข้อพึงระวังเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้น และจะมีการซ้อมอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 29 ม.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันที่รับอุปกรณ์ในการเลือกตั้ง

 ทั้งนี้ประธาน กกต.ได้ฝากความห่วงใยเกี่ยวกับผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งคือการทำผิดเกี่ยวกับบัตรเลือกตั้ง เช่น ไม่ถ่ายภาพบัตรลงคะแนน หรือเปิดเผยบัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนแล้วไม่ว่าเจตนาหรือไม่ก็ตาม การนำบัตรออกจากพื้นที่ลงคะแนนโดยไม่ได้หย่อนลงในหีบ รวมถึงการเผลอเลอในการทำให้บัตรเลือกตั้งเสียหาย ซึ่งทางสำนักงาน กกต.กทม.ก็จะได้มีการนำเอกสารไปปิดประกาศเพื่อเตือนถึงข้อพึงระวังต่างๆ

นายสำราญ กล่าวว่า สำหรับปัจจัยชี้วัดที่จะส่งผลต่อการการรวมผลคะแนน นอกจากศักยภาพของเจ้าพนักงานแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ถ้าออกมาใช้สิทธิจำนวนมากก็จะใช้ระยะเวลานานขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าถ้าหากจะให้มีการลงคะแนนโดยละเอียดรอบคอบ ถูกต้องและไม่เกิดประเด็นสงสัยน่าจะเป็นช่วงเวลา 22.00 น.เหมือนกับการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ชุมพร หรือ จ.สงขลา

นายสำราญ กล่าวอีกว่า ส่วนการตื่นตัวของประชาชนในการเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ คาดว่าจะมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาเนื่องจากว่างเว้นจากการเลือกตั้งมา 3 ปีแล้ว และอีกประการคือผลจากการเลือกตั้งซ่อม 2 จังหวัดภาคใต้ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ใช้สิทธิในกรุงเทพฯมีความกระตือรือร้นมากยิ่งขึ้นระดับหนึ่ง ซึ่งครั้งที่แล้วมีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งร้อยละ 60.49 แต่คาดว่าครั้งนี้จะมีผู้มาใช้สิทธิ์มากกว่าเดิม

ส่วนเรื่องร้องเรียนการซื้อสิทธิขายเสียงเลือกการเลือกตั้งในขณะนี้ยังไม่มี มีแค่เสียงการพูดกันไปมา ทั้งนี้ ยืนยันว่าเรามีความพร้อมในระดับหนึ่ง มีทั้งหน่วยสอบสวน บก.น.2 ซึ่งประกอบไปด้วยตำรวจ 5 สถานี และเจ้าหน้าที่หน่วยเคลื่อนที่เร็วที่ กกต.แต่งตั้งไว้ นอกจากนี้ ยังมีผู้ตรวจการเลือกตั้งที่ฝังตัวอยู่ในพื้นที่มาตลอด หากได้รับแจ้งก็จะไปขยายผลตรงนั้นทันที เบื้องต้นยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงตามที่กล่าวถึงแต่อย่างใด

นายสำราญ กล่าวเพิ่มเติม ส่วนผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องมีความระมัดระวังในช่วงโค้งสุดท้ายนั่นคือการหาเสียงต้องไม่ดำเนินการใดๆ ที่ผิดกฎหมาย เช่น มาตรา 73 ที่ระบุว่าต้องไม่ดำเนินการใดๆ ที่เป็นการฝ่าฝืน โดยการสัญญาว่าจะให้ให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด โดยเฉพาะการใช้ข้อความการปราศรัยหรือเอกสารที่ออกไปในเชิงหมิ่นเหม่ ซึ่งอาจจะถูกกล่าวหาว่าใส่ร้ายป้ายสีอีกฝ่ายหนึ่งก็ได้ รวมถึงในการหาเสียงจะต้องยุติภายในเวลา 18.00 น.ในวันที่ 29 ม.ค.ทันที

นอกจากนี้ กรณีที่ นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 9 ได้ร้อง กกต.กรณีที่มีผู้สมัครรายหนึ่งได้ขึ้นป้ายนโยบายหาเสียงรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ว่าเข้าข่ายการหาเสียงเกินจริงหรือไม่ นายสำราญ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่านัยยะความหมายข้อความดังกล่าวนั้นแปลความว่าอย่างไร อาจจะเป็นนโยบายที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ ส.ส.พึงมีที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือถ้าแปลความอีกอย่างก็อาจจะหมิ่นเหม่ได้ ซึ่งจะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนต่อไป