

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีความห่วงประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่ประสบปัญหาค่าฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานในบางพื้นที่ โดยได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังดูแล และป้องกันผลกระทบสุขภาพประชาชนที่เกิดจากฝุ่น PM 2.5 โดยให้สำรวจและจัดทำทะเบียนกลุ่มเสี่ยงจาก PM 2.5 ในพื้นที่ด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขรับข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เตรียมพร้อมเปิดคลินิกมลพิษออนไลน์ จัดเตรียมห้องปลอดฝุ่นในสถานบริการสาธารณสุข สถานที่มีกลุ่มเสี่ยง อาทิ ศูนย์เด็กเล็ก สถานที่ดูแลผู้สุงอายุ หรือบ้านเรือนประชาชนขณะที่ กรุงเทพมหานครได้ดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อย่างต่อเนื่อง ทั้งการล้างทำความสะอาด ดูดฝุ่นถนน และฉีดล้างต้นไม้ พร้อมบูรณาการความร่วมมือกับกองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก ขสมก. เพื่อเข้มงวดในการควบคุมการจราจร ด้วยการการตรวจวัดและห้ามใช้รถยนต์ควันดำ ซึ่งคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล จะสะสมเกินมาตรฐานในช่วงระหว่างวันที่ 15-18 ธ.ค. 2564 และในช่วง 7 วันข้างหน้า มีแนวโน้มที่ดีขึ้นในวันที่ 19-21 ธ.ค.2564 เนื่องจากอากาศที่เปิดมากขึ้นอย่างไรก็ตามวันที่ 22-23 ธ.ค.2564 อาจมีโอกาสที่ระดับฝุ่นละอองอาจสูงขึ้นอีก
ทั้งนี้สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร ตรวจวัดค่า PM 2.5 ประจำวันที่ 16 ธันวาคม 2564 ได้ 34-63 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร พบว่ามีค่าดัชนีเกินจากมาตรฐาน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ใน จำนวน 19 พื้นที่ได้แก่ ซึ่ง 7 พื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละออง PM 2.5 สูงสุด ได้แก่
1. เขตลาดกระบัง : 63 มคก./ลบ.ม.
2. เขตหนองแขม : 60 มคก./ลบ.ม.
3. เขตทวีวัฒนา : 60 มคก./ลบ.ม.
4. เขตคลองสามวา : 57 มคก./ลบ.ม.
5. เขตตลิ่งชัน : 56 มคก./ลบ.ม.
6. เขตบางกอกใหญ่ : 56 มคก./ลบ.ม.
7. เขตวังทองหลาง : 56 มคก./ลบ.ม.
ขณะที่ภาคเหนือ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 17 – 40 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 18 – 44 มคก./ลบ.ม. ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐาน 1 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 19 – 56 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 21 – 44 มคก./ลบ.ม. และ ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 10 – 25 มคก./ลบ.ม.
“นายกรัฐมนตรีห่วงใยประชาชนในช่วงที่มีปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 กลับมามีค่าสะสมเกินมาตรฐานเนื่องจากความกดอากาศสูง ขอให้พี่น้องประชาชนหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน และขอสวมใส่หน้ากากอนามัยอยู่เสมอ เพราะสามารถป้องกันได้ทั้งฝุ่นและไวรัสโควิด-19 รวมทั้งโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ที่มักพบในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง และให้หน่วยงานภาครัฐประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้แก่ประชาชนในการป้องกันและดูแลตนเองจากฝุ่น PM 2.5 ด้วย อย่างต่อเนื่องด้วย” นายธนกร กล่าว