“ศักดิ์สยาม”เคลียร์ชัดไม่คิดทุบหัวลำโพง



รฟท.ยืนยันไม่รื้อ “หัวลำโพง” พร้อมเร่งเปิดเวทีสาธารณะรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน ประเด็นหยุดเดินรถตามนโยบาย”ศักดิ์สยาม”ย้ำไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน เผยแผนพัฒนาเชิงพาณิชย์เพื่อสร้างรายได้ ในอนาคต

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า เปิดเผยถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานและการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) หลังจากที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์และความกังวลถึงเรื่องดังกล่าว โดยยืนยันว่า กระทรวงคมนาคมไม่ได้มีนโยบายที่จะทุบหรือรื้อทิ้งสิ่งปลูกสร้างสถานีรถไฟหัวลำโพง หรือ ปิดให้บริการแต่อย่างใด เบื้องต้นได้สั่งการให้ รฟท. ดำเนินการเปิดเวทีสาธารณะรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนตามนโยบายของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแล้ว

ซึ่งการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนนั้นจะเป็นเรื่องของการแสดงความเห็นเรื่องการเปิดให้บริการของสถานีรถไฟหัวลำโพง จะเป็นไปในทิศทางไหน ซึ่งนอกจากการรับฟังความคิดเห็นประชาชนแล้ว ยังให้ รฟท. และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประเมินและศึกษษถึงข้อดี ข้อเสีย รวมถึง ความเหมาะสมของขบวนรถที่จะวิ่งให้บริการเข้าออกที่ สถานีรถไฟหัวลำโพงด้วย หากผลออกมาอย่างไรทางกระทรวงคมนาคมก็พร้อมที่จะดำเนินการ ขณะเดียวกันกระทรวงคมนาคมก็ต้องพิจารณาในเรื่องการเปิดให้้บริการสถานีกลางบางซื่อ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า เนื่องจากลงทุนไปจำนวนมากและสถานีดังลก่าวสามารถรองรับรถไฟได้หลายประเภททั้ง รถไฟฟ้า รถไฟชานเมือง รถไฟความเร็วสูง

ด้านนายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) กล่าวว่า สำหรับแผนพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์สถานีรถไฟหัวลำโพงในอนาคตนั้น รฟท. ได้มีการตั้งบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด หรือ SRTA เพื่อบริหารที่ดินของการการรถไฟฯ ทุกแปลง รวมทั้งหัวลำโพงด้วย
โดยจากการประเมินรายได้จากการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ในอนาคต ระยะเวลา 30 ปีพบว่า จะมีรายได้เข้ามารวม 800,000 ล้านบาท โดยในปีแรกจะอยู่ที่ 5,000 ล้านบาทและปีที่ 5 จะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะเพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาภาระหนี้ของรถไฟที่ขาดทุนสะสมต่อเนื่องที่ประมาณ 150,000 ล้านบาท – 160,000 ล้านบาท

ส่วนปัญหาเรื่องการเดินรถไฟเข้ามาในเขตกรุงเทพชั้นใน รัฐบาลได้เล็งเห็นปัญหานี้มานานแล้วจึงได้พัฒนาโครงการสถานีกลางบางซื่อขึ้นเพื่อให้เป็นศูนย์กลางของระบบคมนาคม โดยเฉพาะระบบราง ซึ่งประกอบไปด้วย รถไฟฟ้าสายสีแดง, รถไฟทางไกล รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน และรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีแดงส่วนต่อขยายในอนาคต เพื่อช่วยในการแก้ไขปัญหาการจราจรแออัดในพื้นที่กรุงเทพมหานครโดยเฉพาะจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์ และเมื่อการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อแล้วเสร็จจึงเห็นควรให้มีการปรับการเดินรถเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรอย่างเป็นรูปธรรม

อย่างไรก็ดี ทางรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม และ รฟท. เปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาและหาข้อสรุป เพื่อให้สามารถตอบโจทย์การดำเนินงานในทุกมิติได้อย่างแท้จริง และไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน

นอกจากนี้ทางกระทรวงคมนาคมยังได้มีการจัดทำระบบขนส่งมวลชนรอง หรือ ฟีดเดอร์ เช่น รถเมล์ ขสมก. รวมถึงประสานงานกับภาคเอกชนที่มีสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในการอำนวยความสะดวกและยังเป็นการเพิ่มทางเลือกในการเดินทางให้แก่พี่น้องประชาชนอีกด้วย