ลอยกระทงปีนี้ คาดเงินสะพัด 9.1 พันล้านบาท



  • ต่ำสุดรอบ 10 ปี เหลือใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน 1.2 พันบาท
  • คนประหยัดเหตุกังวลโควิด-เศรษฐกิจ-เงินในกระเป๋า
  • อธิษฐานขอให้เศรษฐกิจ-การเมืองดี-ปลอดภัยจากโรค

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงลอยกระทง 1,240 คนทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 8-12 พ.ย.64 ว่า พบว่า จะมีการใช้จ่ายในช่วงนี้ 9,147 ล้านบาท ติดลบ 3% จากปีก่อนที่มีมูลค่าใช้จ่าย 9,430 ล้านบาท ถือเป็นมูลค่าต่ำสุดในรอบ 10 ปีนับตั้งแต่ปี 54  ที่น้ำท่วมประเทศ และมีเงินสะพัดเพียง 8,100 ล้านบาท ส่วนอัตราการขยาย ที่ติดลบ 3% และเป็นการติดลบต่อเนื่อง 4 ปีติดต่อกันนับตั้งแต่ปี 61

“ลอยกระทงปีนี้ มีค่าใช้เฉลี่ยต่อคนที่  1,280 บาท ลดลงจากปีก่อนที่อยู่ที่ 1,348 บาท ส่วนใหญ่จะใช้เป็นค่าเดินทางรับประทานอาหารนอกบ้าน สังสรรค์ เป็นต้น โดยปีนี้ประชาชนใช้จ่ายอย่างประหยัดมากขึ้น ใช้จ่ายระมัดระวัง เพราะกยังกังวลกับรายได้ เศรษฐกิจ ที่อยู่ระหว่างการฟื้นตัว และปัญหาโควิด-19”

อย่างไรก็ตาม ถือว่า บรรยากาศลอยกระทงปีนี้คึกคักกว่าปีที่ผ่านมา เพราะประชาชนมากถึง 51.6% ตอบจะออกไปลอยกระทง อีก 31.1% ตอบไม่ลอย อยู่บ้าน และ 12.7% ตอบไม่แน่ใจ สำหรับคำอธิษฐานของประชาชนในช่วงลอยกระทง คือ ขอให้เศรษฐกิจดี การเมืองดี ครอบครัวมีความสุข ปลอดภัยจากโรคภัย สุขภาพแข็งแรง และพระราชินีในรัชกาลที่ 9 และในหลวงรัชกาลที่ 10 และพระบรมวงศานุวงศ์ ทุกพระองค์ทรวงมีพลานามัยแข็งแรง

นายธนวรรธน์ กล่าวต่อถึงเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 ว่า เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นแล้ว แต่ยังมีปัจจัยที่เข้ากระทบ คือ ราคาน้ำมันและราคาสินค้าแพงขึ้น การจับจ่ายประชาชนยังคงระมัดระวัง เพราะยังกังวลการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากโควิดการควบคุมโควิด ห่วงเงินในกระเป๋า แต่ใน 2 เดือนสุดท้ายของปี หรือเดือนพ.ย.-ธ.ค.นี้ ประชาชนมองว่า การระบาดของโควิดเริ่มคลี่คลายมากขึ้น การฉีดวัคซีนเพิ่มมากขึ้น และจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง

“เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงสุดท้ายของปีนี้ รัฐบาลจำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น ช้อปดีมีคืน ที่จะทำให้มีเงินสะพัด 30,000-50,000 ล้านบาท ส่วนคนละครึ่ง เอกชนก็คาดหวังให้รัฐบาลอัดฉีดเม็ดเงินให้ประชาชนเพิ่มอีกคนละ 1,500 บาท โดยอาจจะใช้ในไตรมาส 1 ปี 65 ซึ่งจะทำให้เกิดการจับจ่ายและกระตุ้นเศรษฐกิจได้ การฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมาย การตรึงราคาน้ำมันดีเซลที่ลิตรละ 30 บาท รัฐบาลจะใช้วงเงิน 20,000 ล้านบาท ถึงสิ้นปี 64 รวมถึงกระตุ้นการท่องเที่ยว ให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามากขึ้น”

ทั้งนี้ มองว่า ปีนี้ เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 1-1.5% ส่วนในปี 65 คาดอยู่ที่ 4-5% โดยเศรษฐกิจไทยจะเริ่มฟื้นตัวดีได้ก็ประมาณไตรมาส 2 ปี 65 และกลับมาแข็งแรงได้ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยยังต้องติดตามปัจจัยที่กระทบด้วย โดยเฉพาะโควิด รวมถึงราคาน้ำมัน ค่าเงินบาท แผนกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ