ดาวโจนส์ปิดลบเล็กน้อย 12 จุด กังวลอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่ง



.นักลงทุนนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย
.ตลาดรอลุ้นมาตรการกระตุ้นลงทุนกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน 1 ล้านล้านเหรียญ
.จับตารายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ในสัปดาห์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 15 พ.ย.ที่ 36,087.45 จุด ลดลง 12.86 จุด หรือ -0.04%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,682.80 จุด ลดลง 0.05 จุด หรือ -0.00% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 15,853.85 จุด ลดลง 7.11 จุด หรือ -0.04%

ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวน โดยในช่วงแรกของตลาด ดัชนีดาวโจนส์ดีดขึ้นในแดนบวก ขานรับการเตรียมลงนามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน แต่สุดท้ายปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยล่าสุด นประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐได้ลงนามบังคับใช้กฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน (Bipartisan Infrastructure Framework – BIF) วงเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์แล้วเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (15 พ.ย.)

นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.615% เมื่อคืนนี้ โดยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีถือเป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น จะทำให้บริษัทต่างๆเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน

หุ้น Nvidia ร่วงลง 1.2% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ลดลง 0.67% หุ้นไมโครซอฟท์ ปรับตัวลง 0.19% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 0.15% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวเซส (AMD) ลดลง 0.95%

ขณะที่หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ปรับตัวลง 0.64% โดยหุ้นเอชซีเอ เฮลธ์แคร์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโรงพยาบาลรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ร่วงลง 1.13% หุ้นเมอร์ค แอนด์ โค ลดลง 0.40% หุ้นไฟเซอร์ ปรับตัวลง 0.16% หุ้นอิไล ลิลลี่ (Eli Lilly) ลดลง 0.49%

หุ้นเทสลา ร่วงลง 1.94% หลังมีรายงานว่านายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลาได้ทุ่มเถียงกับนายเบอร์นี่ แซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกรัฐเวอร์มอนต์ หลังนายแซนเดอร์สเรียกร้องให้ชาวอเมริกันผู้มีฐานะร่ำรวย “จ่ายภาษีในอัตราส่วนที่เหมาะสม”
ทั้งนี้ นายมัสก์ได้ตอบโต้นายแซนเดอร์สด้วยการโพสต์ข้อความในเชิงท้าทายว่า “อยากให้ผมขายหุ้นอีกไหม เบอร์นี่ บอกผมได้เลย”

หุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 5.49% หลังมีข่าวว่าสายการบินซาอุดีอาระเบียกำลังพิจารณาซื้อเครื่องบินลำตัวกว้างของโบอิ้ง ขณะที่สายการบินเอมิเรตส์ก็ได้สั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้งเช่นกัน

นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงวอลมาร์ท, ทาร์เก็ต, โฮมดีโปท์ และเมซีส์ อิงค์ รวมทั้งจับตารายงานยอดค้าปลีกประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐในวันนี้ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย