ดาวโจนส์ปิดตลาดลดลงเล็กน้อย33จุด ผลประชุมเฟดเป็นไปตามคาด



.นักลงทุนขายหุ้นลดความเสี่ยง หลังเฟดลดQEตามคาด
.ภาพรวมเศรษฐกิจยังฟื้นตัว คนว่างงานลดต่อเนื่องต่ำสุดในช่วงโควิด
.มีแรงขายหุ้นธนาคาร ขณะที่หุ้นเทคโนโลยีมีแรงซื้อสดใส

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 4พ.ย.ที่ 36,124.23 จุด ลดลง 33.35 จุด หรือ -0.09% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,680.06 จุด เพิ่มขึ้น 19.49 จุด หรือ +0.42% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 15,940.31 จุด เพิ่มขึ้น 128.72 จุด หรือ +0.81%

มีแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคาร เนื่องจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐทำให้นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรของภาคธนาคารในสภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 1.533% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 2.35% หุ้นเจพีมอร์แกน ลดลง 1.31% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 2.76% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลง 2.13%

หุ้นโมเดอร์นา ร่วงลง 17.89% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่ระดับ 7.70 ดอลลาร์ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 9.05 ดอลลาร์ นอกจากนี้ โมเดอร์นาได้ปรับลดคาดการณ์รายได้จากการจำหน่ายวัคซีนต้านโควิด-19 ประจำปีนี้ลงสู่ช่วง 15,000-18,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 20,000 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 1.54% หลังจากบริษัทควอลคอม อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยกำไรต่อหุ้นพุ่งขึ้น 76% ในไตรมาส 3 สู่ระดับ 2.55 ดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.26 ดอลลาร์ นอกจากนี้ ควอลคอมยังได้เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 4 ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ทั้งนี้ หุ้นควอลคอม ทะยานขึ้น 12.73% หุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 12.04% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ดีดขึ้น 1.39% หุ้นไมโครซอฟท์ บวก 0.73% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 1.14%

หุ้นเมอร์ค แอนด์ โค ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 2.07% หลังจากบริษัทเมอร์คและบริษัทริดจ์แบ็ค ไบโอเทราพิวติกส์ แถลงว่า สำนักงานควบคุมกฎระเบียบยาและผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพของสหราชอาณาจักร (MHRA) ให้การอนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์สำหรับการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว โดยการอนุมัติดังกล่าวทำให้สหราชอาณาจักรเป็นประเทศแรกของโลกที่ให้การอนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ ซึ่งเป็นยาเม็ดรับประทานชนิดแรกที่ใช้สำหรับการรักษาโรคโควิด-19 ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) และองค์การยาแห่งยุโรป (EMA) กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาอนุมัติ

เมื่อวันที 3พ.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศว่าจะทยอยปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ เริ่มตั้งแต่เดือนพ.ย. ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ รวมทั้งถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดซึ่งส่งสัญญาณว่าเฟดยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ตลาดไม่ร่วงลงรุนแรง

ตลาดยังขานรับข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 14,000 ราย สู่ระดับ 269,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 275,000 ราย