ดาวโจนส์ปรับขึ้นเล็กน้อย 20 จุด เคลื่อนไหวตามผลประกอบการบริษัท



.นักลงทุนซื้อขายหุ้น เก็งกำไรตามผลประกอบการบริษัทที่ทยอยประกาศออกมา
.ตลาดชะลอตัว รอดูทิศทางเศรษฐกิจ-การประชุมนโยบายการเงินเฟด
.การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย.

เมื่อเวลา 21.55 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ35,751.39 จุด เพิ่มขึ้น 20.91 จุด หรือ +0.06% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 15,378.96 จุด ลดลง 69.16 จุด หรือ -0.45% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,587.30 จุด ลดลง 9.12 จุด หรือ -0.20%

ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวนในแดนบวกและลบตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่บางส่วนชะลอการซื้อขายรอติดตามารประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า

นักลงทุนเทขายหุ้นแอปเปิล หลังผิดหวังผลประกอบการ โดยแม้ว่าจะเปิดเผยยอดขาย iPhone เพิ่มขึ้น 47% เมื่อเทียบรายปี แต่รายได้ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่ราคาหุ้นแอมะซอนร่วงลง 4% หลังผลประกอบการออกมาผิดคาดนักวิเคราะห์เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นไมโครซอฟท์ดีดตัวขึ้น 0.5% หลังจากเปิดเผยรายได้ประจำไตรมาส 1 ตามปีงบการเงินของบริษัท พุ่งขึ้น 22% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2561 โดยบริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ป สามารถเบียดแซงบริษัทแอปเปิล อิงค์ ขึ้นเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดในโลก
โดยมีมีมูลค่าตลาด 2.45 ล้านล้านดอลลาร์ สูงกว่าแอปเปิลซึ่งมีมูลค่าตลาด 2.42 ล้านล้านดอลลาร์

ขณะที่ ราคาหุ้นเอ็กซอน โมบิลและเชฟรอนดีดตัวขึ้นขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยเอ็กซอนกำไรพุ่งสูงสุดรอบ 7 ปีในไตรมาส 3 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2557 โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น และอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในตลาด ขณะที่เชฟรอน คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐ เปิดเผยกำไรและรายได้ในไตรมาส 3 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เช่นกัน

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 2-3 พ.ย. โดยคาดว่าเฟดอาจปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมครั้งนี้

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัวช้าๆ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย. แต่ชะลอตัวจากระดับ 1.0% ในเดือนส.ค. โดยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ย.

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. c]tเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 3.6% ในเดือนก.ย. สอดคล้องกับเดือนส.ค.