ดาวโจนส์เคลื่อนไหวในแดนบวก ปรับขึ้นกว่า 130 จุด รับผลประกอบการที่ออกมาดี



.หุ้นขนาดใหญ่ยังประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ออกมาดีกว่าคาด ส่งผลดาวโจนส์ดีดขึ้นทำนิวไฮอีกครั้ง
.นักลงทุนผิดหวังจำนวนสมาชิกรายเดือน เทขายหุ้นฟซบุ๊ก แม้ประกาศรายได้ดีกว่าคาดไว้
.ตลาดได้แรงหนุนทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐยังฟื้นตัว-จับตาผลประกอบการกลุ่มเทคโนโลยี

เมื่อเวลา 22.15 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 35,876.97 จุด เพิ่มขึ้น 135.82 จุด หรือ +0.38% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 15,347.65 จุด เพิ่มขึ้น 120.95 จุด หรือ +0.79% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,595.43 จุด เพิ่มขึ้น 28.95 จุด หรือ +0.63%

ดัชนีดาวโจนส์ทำนิวไฮ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง ขานรับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง หุ้นเทสลาพุ่งขึ้น อีกกว่า 5% หลังบริษัทเฮิร์ซ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถยนต์เช่ารายใหญ่ของโลก ได้สั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลาจำนวนมากถึง 100,000 คัน ซึ่งคำสั่งซื้อดังกล่าวถือเป็นคำสั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้าครั้งใหญ่ที่สุด และจะทำรายได้ให้แก่เทสลาถึง 4.2 พันล้านดอลลาร์ โดยภายใต้ข้อตกลงนี้ เทสลาจะส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าให้แก่เฮิร์ซภายในสิ้นปี 2565

ขณะที่บริษัทเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) เปิดเผยตัวเลขกำไรในไตรมาส 3 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยบริษัทมีกำไร 57 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 43 เซนต์/หุ้น ทั้งนี้ บริษัทได้ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรในปีนี้ สู่ระดับ 1.80-2.10 ดอลลาร์/หุ้น จากเดิมที่ระดับ 1.20-2.00 ดอลลาร์/หุ้น

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นเฟซบุ๊กร่วงลง 0.6% ในวันนี้ หลังบริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไรที่สูงเกินคาด แต่มีรายได้และจำนวนสมาชิกรายเดือนที่ต่ำกว่าคาด นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทอัลฟาเบท ทวิตเตอร์ และไมโครซอฟท์ หลังจากปิดตลาดวันนี้

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก Refinitiv ระบุว่า บริษัทจำนวน 119 แห่งในดัชนี S&P 500 ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 3 แล้ว โดย 84% ในจำนวนนี้มีผลประกอบการที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ และนักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทจดทะเบียนจะมีการขยายตัวของกำไรในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นถึง 35%

ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐยังแสดงการฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 19.8% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเท่ากับระดับการเพิ่มขึ้นของเดือนก.ค. และเป็นครั้งแรกที่ราคาบ้านไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบรายปีนับตั้งแต่ปี 2563

ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 19.7% ในเดือนส.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 20.0% ในเดือนก.ค. ราคาบ้านที่เพิ่มขึ้นได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ของผู้ซื้อบ้าน และสต็อกบ้านที่ตึงตัว รวมทั้งการปรับตัวลงของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านในสหรัฐเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลงในเดือนส.ค.