พาณิชย์สุดปลื้ม! ส่งออกก.ย.64 โตพรวด 17.1% สวนโควิด



.ทะลุ 2.3 หมื่นล้านเหรียญฯสูงสุดเป็นเดือน 3 ในรอบปี

.อานิสงส์เศรษฐกิจโลกฟื้น-รัฐจับมือเอกชนลุยแก้อุปสรรค

.คาดทั้งปีขยายตัวเกิน 10% สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4%

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงสถิติการค้าระหว่างประเทศของไทยว่า เดือนก.ย.64 การส่งออก มีมูลค่า 23,036 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่ม 17.1% เทียบเดือนก.ย.63 หากคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 760,556 ล้านบาท เพิ่ม 24.4% ส่วนการนำเข้า 22,426.2 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 30.3% คิดเป็นเงินบาท 750,267 ล้านบาท เพิ่ม 38.4% มีดุลการค้าเกินดุล 609.8 ล้านเหรียญฯ หรือ 10,289.3 ล้านบาท ขณะที่ช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ปี 64 การส่งออก 199,997.7 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 15.5% จากช่วงเดียวกันของปี 63 คิดเป็นเงินบาท 6.202 ล้านล้านบาท เพิ่ม 15% ส่วนการนำเข้า 197,980.9 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 30.9% คิดเป็นเงินบาท 6.226 ล้านล้านบาท เพิ่ม 30.5% ดุลการค้าเกินดุล 2,016.8 ล้านเหรียญฯ แต่คิดเป็นเงินบาทขาดดุล 24,620.7 ล้านบาท

สำหรับปัจจัยที่ทำให้การส่งออกในเดือนก.ย.64 เพิ่มขึ้น 17.1% แม้มีสถานการณ์โควิด-19 ที่กระทบต่อภาคการผลิต และโลจิสติกส์ในช่วงล็อกดาวน์ เป็นเพราะแผนส่งเสริมการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลัง ที่มี 130 กิจกรรม ทำได้บรรลุผล, กระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชน รวมถึงส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทำงานร่วมกันในการเปิดตลาดใหม่ เช่น ตะวันออกกลาง แอฟริกา ลาตินอเมริกา และแก้ปัญหาส่งออก เช่น ขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ แก้ปัญหาส่งออกผ่านด่านไปเวียดนามและจีน และเร่งรัดเปิดด่านการค้าชายแดน

นอกจากนี้ การค้าโลกดีขึ้น ส่งผลให้มีความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น, ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง ส่งผลให้สินค้าไทยแข่งขันได้ดีขึ้น,  ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ที่แม้ทำให้ต้นทุนนำเข้าเพิ่มขึ้น แต่ทำให้ราคาที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันเพิ่มขึ้น และที่สำคัญ ศักยภาพของภาคเอกชนไทยเข้มแข็ง ภาคการผลิตฟื้นตัวเร็ว แม้มีปัญหาล็อกดาวน์ และแรงงานติดเชื้อโควิด-19

ทั้งนี้ เดือนก.ย.64 สินค้าที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ สินค้าเกษตร เพิ่มขึ้น 12.9% เพิ่มต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 ทำรายได้เข้าประเทศเป็นเงินบาทรวม 64,831 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของยางพารา 15,138 ล้านบาท, มันสำปะหลัง 10,432 ล้านบาท รวมถึง ลำไยสด และมะม่วงสด ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร เพิ่ม 11.3% มูลค่าเป็นเงินบาท 56,589 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของ สับปะรดกระป๋อง ผลไม้รวมกระป๋อง มะม่วงกระป๋อง อาหารสัตว์เลี้ยง และสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่ม  15.8% ทำเงินเข้าประเทศ 608,317 ล้านบาท จากสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน 91,585 ล้านบาท, เหล็กและผลิตภัณฑ์ 20,302 ล้านบาท, เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 26,507 ล้านบาท, รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ 73,911 ล้านบาท

ส่วนตลาดส่งออก เพิ่มขึ้นทุกตลาด โดยสหรัฐ เพิ่ม 20.2%, จีน เพิ่ม 23.3%, ญี่ปุ่น เพิ่ม 13.2%,  อาเซียน (5 ประเทศ) เพิ่ม 25.7%, ซีแลอเอ็มวี เพิ่ม 8.2%, สหภาพยุโรป (27 ประเทศ) เพิ่ม 12.6, เอเชียใต้ เพิ่ม 69.0%, ทวีปออสเตรเลีย เพิ่ม 3.0%, ตะวันออกกลาง เพิ่ม 17.4%, ทวีปแอฟริกา เพิ่ม 30.2%, ลาตินอเมริกา เพิ่ม 10.1% และรัสเซียและกลุ่มประเทศซีไอเอส เพิ่ม 42.5% เป็นต้น

ด้านนายรณรงค์ พูลพิพัฒน์  ผู้อำนายการสำนักงานนโยบาบและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่า การส่งออกไทยเดือน ก.ย. 64 กลับมาอยู่ที่เหนือระดับ 23,000 ล้านเหรีญฯ เป็นครั้งที่ 3 ในรอบปีนี้ หลังจากเดือนมี.ค.64 มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 24,222 ล้านเหรียญฯ และเดือนมิ.ย. 64 ที่ 23,699 ล้านเหรียญฯ ส่วนในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้ การส่งออกมีแนวโน้มขยายตัวดีต่อเนื่อง เพราะความต้องการซื้อจากต่างประเทศยังมีทิศทางฟื้นตัวดีตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจากประเทศคู่ค้าสำคัญ คาดว่า มูลค่าส่งออกทั้งปี 64 จะขยายตัวเป็นตัวเลข 2 หลัก หรือเกิน 10% มากกว่าเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ที่ตั้งไว้ 4% แน่นอน