.ตลาดกังวลเฟดเร่งปรับลดวงเงินคิวอี หลังตัวเลขตลาดแรงงานดีกว่าคาด เงินเฟ้อสูง-น้ำมันแพง
.นักลงทุนกังวลความขัดแย้งในสภาคองเกรสไม่เพิ่มเพดานหนี้สหรัฐฯ
. หวั่นการฟื้นตัวเศรษฐกิจสหรัฐถูกกระทบ ส่งผลนักลงทุน
เมื่อเวลาประมาณ 22.05 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,090.69 จุด ลดลง 223.98 จุด หรือ -0.65% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 14,408.91 จุด ลดลง 24.92 จุด หรือ -0.17% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 14,405.29 จุด ลดลง 28.54 จุด หรือ -0.20%
นักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่สูงกว่าคาดในวันนี้ ทำให้เกิดแรงเทขายหุ้นในตลาดวันนี้ หลังดัชนีดีดขึ้นวานนี้
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 568,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 425,000 ตำแหน่ง จากระดับ 340,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.
นักลงทุนมีความวิตกเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ หลังการทะยานขึ้นของราคาน้ำมันในระยะนี้ โดยจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์ ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เฟดใช้ในการพิจารณาการปรับลดวงเงิน QE และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ตลาดยังจับตาความขัดแย้งในสภาคองเกรสเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เรียกร้องให้สภาคองเกรสเพิ่มเพดานหนี้ภายในวันที่ 18 ต.ค. ก่อนที่จะเกิดหายนะต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
นางเยลเลน ได้ออกมาเตือนว่า เธอคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย หากสภาคองเกรสไม่ขยายเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางเพื่อช่วยให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
“ดิฉันกำหนดเส้นตายวันที่ 18 ต.ค.นี้ หากสภาคองเกรสไม่ขยายเพดานหนี้ รัฐบาลสหรัฐก็จะไม่สามารถจ่ายหนี้ตามภาระผูกพันได้ และสิ่งที่จะตามมาคือหายนะ ซึ่งดิฉันคิดว่าความรุนแรงของหายนะครั้งนี้อาจถึงขั้นทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย” นางเยลเลนกล่าวห้สัมภาษณ์ในรายการ “Squawk Box” ของสถานีโทรทัศน์ CNBC
ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้เชิญผู้บริหารของบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ของสหรัฐเข้าร่วมประชุมในทำเนียบขาวในวันนี้ เพื่อกดดันให้สภาคองเกรสเร่งอนุมัติการเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ โดยคาดว่าจะมีผู้บริหารของบริษัทอินเทล, ดีลอยท์, ซิตี้กรุ๊ป และเจพีมอร์แกนเชส เป็นส่วนหนึ่งที่เข้าร่วมการประชุมในวันนี้
หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มธุรกิจเรือสำราญและกลุ่มสายการบิน ต่างปรับตัวลงในการซื้อขายวันนี้ เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
