วันที่ 7 ก.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการคลัง ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และ 7 สายการบิน ได้แก่ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส, สายการบินไทยแอร์เอเชีย, สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์, สายการบินไทยสไมล์, สายการบินนกแอร์, สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ และสายการบินไทยเวียตเจ็ท เข้ามาหารือกันเรื่องที่สายการบินต้องการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) เพื่อเยียวยาให้กับธุรกิจการบินที่ได้รับผลจากโควิด จำนวน 5,000 ล้านบาทนั้น
นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวว่า ข้อสรุปของการหารือกับ 7 สายการบินวันนี้ คือ หากต้องการให้เอ็กซิมแบงก์ เข้าไปช่วยเหลือสายการบินอื่นที่ไม่ใช่ลูกค้าของเอ็กซิมแบงก์ จะต้องแก้ไขระเบียบพระกำหนด(พ.ร.ก.)สินเชื่อฟื้นฟูของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่กำหนดช่วยเหลือธุรกิจไว้เดิมแค่ 50 ล้านบาท หรือประมาณ 10% ของมูลค่าธุรกิจไม่เกิน 500 ล้านบาท โดยจะต้องเพิ่มวงเงินกู้เป็น 30 % ของมูลค่าธุรกิจ ซึ่งจะได้รับเงินช่วยเหลือราว 150 ล้านบาท ทำให้สามารถช่วยเหลือสายการบินได้มากกว่า 3 เดือน
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้กระทรวงการคลังและสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) จะเข้าไปหารือเกี่ยวกับการแก้ระเบียบกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ในเร็วๆ นี้เพื่อหาทางออกร่วมกันต่อไป
