ข่าวดี! จีนปลดล็อกนำเข้าลำไยจาก 56 บริษัทไทย

.ดีเดย์ 17 ส.ค.หลังทูตเกษตร-พาณิชย์จับมือแก้ปัญหา

.เสนอแผนคุมเข้มศัตรพืช-ปรับปรุงตามเงื่อนไขจีน

.พาณิชย์เร่งหาตลาดส่งออกเพิ่ม-รณรงค์กินในประเทศ

นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ทูตเกษตร และทูตพาณิช์ของไทยที่ประจำอยู่ที่จีน ได้รายงานนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ถึงผลการหารือกับทางการของจีน กรณีที่จีนห้ามนำเข้าลำไยจาก 66 บริษัทของไทย เพราะพบเพลี้ยแป้ง โดยหลังจากการหารือเพื่อแก้ปัญหาแล้ว จีนจะอนุญาตให้ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุ 50 แห่ง จาก 66 แห่ง ที่ตรวจพบศัตรูพืชน้อย สามารถส่งออกลำไยไปจีนได้ และอนุญาตให้โรงคัดบรรจุอีก 6 แห่ง จาก 9 แห่ง ที่ทางการไทยได้ระงับการส่งออกไปจีนชั่วคราวตั้งแต่เดือนมี.ค.64 ให้สามารถกลับมาส่งออกได้อีกครั้ง หลังจากได้ปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามที่จีนกำหนด รวมมีโรงคัดบรรจุ 56 แห่ง ที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกไปจีนได้ในครั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค.64

ส่วนโรงคัดบรรจุที่เหลือ หากมปรับปรุงและปฏิบัติตามเงื่อนไขของมาตรการป้องกันควบคุมศัตรูพืชในลำไยส่งออกไปจีน ตามที่ฝ่ายไทยเสนอได้ ก็จะอนุญาตให้ส่งออกได้ในระยะต่อไป แต่การอนุญาตทั้งหมดนี้ ยังคงต้องถูกตรวจสอบที่ด่านกักกันการนำเข้าที่จีนเหมือนเดิม โดยทางการจีนหวังว่ าไทยจะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ เพื่อรับประกันว่าจะไม่มีศัตรูพืชติดไปกับลำไยอีก 

“จากการอนุญาตให้ไทยกลับมาส่งออกได้ หลังจากที่เพิ่งระงับไปเพียงไม่กี่วัน ส่งผลให้การส่งออกลำไยของไทยไปจีน มีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่อง เพราะผลผลิตลำไยของไทยมีตลาดรองรับที่แน่นอน ส่งผลดีต่อเกษตรกรที่ขณะนี้กำลังเป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาด ทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น จากการเข้ามารับซื้อของโรงคัดบรรจุและผู้ส่งออก ที่ต้องการนำลำไยไปส่งออกให้กับจีน” 

อย่างไรก็ตาม นายจุรินทร์ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้นอีก และให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการตรวจสอบอย่างเข้มงวดตามที่ได้เสนอฝ่ายจีนไป รวมทั้งให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เร่งทำแผนขยายตลาดให้กับลำไยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการผลักดันการส่งออกไปยังประเทศเป้าหมายอื่นๆ และให้กรมการค้าภายใน เร่งช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไยตามมาตรการต่างๆ ที่ออกมาแล้วก่อนหน้านี้ ทั้งการดึงผู้ส่งออก ห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปีกค้าส่ง รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชนมาช่วยรับซื้อ เพื่อไปกระจายถึงผู้บริโภค