.ตลาดชื่นใจตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงต่อเนื่อง
.นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นคืน หลังดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ปิดลดลงแรง
.จับตาประชุมนโยบายการเงินเฟด หลังเห็นแนวโน้ม เฟดจ่อลดวงเงิน QE ภายในปีนี้
เมื่อเวลา 21.45 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,973.74 จุด เพิ่มขึ้น
181.07 จุด หรือ +0.52% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 14,846.72 จุด เพิ่มขึ้น 66.19 จุด หรือ +0.45% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,418.26 จุด เพิ่มขึ้น 15.60 จุด หรือ +0.35%
ข่าวดีตลาดแรงงานกลับมาหนุนตลาด ดาวโจนส์ปรับตัวในแดนบวก หลังดัชนีราคาหุ้นลดลงวานนี้ หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 14,000 ราย สู่ระดับ 385,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลง 366,000 ราย สู่ระดับ 2.93 ล้านราย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องต่ำกว่าระดับ 3 ล้านรายนับตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.2563
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐพุ่งขึ้น 6.7% สู่ระดับ 7.57 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 7.41 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 1.8% สู่ระดับ 2.391 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 1.459 แสนล้านดอลลาร์ โดยเป็นระดับสูงเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
ตลาดจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงปลายเดือนนี้ โดยมองว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล
นายริชาร์ด แคลริดา รองประธานเฟด ส่งสัญญาณในการกล่าวถ้อยแถลงวานนี้ว่า เฟดจะปรับลดวงเงิน QE ภายในปีนี้ ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายด้านการจ้างงานและเงินเฟ้อของเฟดภายในปลายปีหน้า ซึ่งจะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566
“ผมเชื่อว่าเศรษฐกิจจะบรรลุเงื่อนไขที่จำเป็นต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดภายในปลายปีหน้า และกลับมาใช้นโยบายการเงินแบบปกติในปี 2566 และหากการคาดการณ์ของผมเป็นจริง ก็คาดว่าเฟดจะเริ่มประกาศปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรภายในปีนี้”” นายแคลริดากล่าว
ก่อนหน้านี้ นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ว่าการของเฟด เคยออกมาระบุว่า เฟดควรจะเริ่มปรับลดวงเงิน QE ภายในเดือนต.ค.
ราคาหุ้นของบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาของสหรัฐ พุ่งขึ้นกว่า 4% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทวันนี้ หลังบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 2 โดยได้ปัจจัยหนุนจากยอดขายวัคซีนต้านโควิด-19 โดยบริษัทมียอดขายวัคซีนต้านโควิด-19 สูงถึง 4,200 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียง 3 เดือนระหว่างเดือนเม.ย.-มิ.ย. หรือราว 140,000 ล้านบาท
