สธ.เปิดไทม์ไลน์กระจาย “วัคซีนไฟเซอร์ ” 1.5 ล้านโดส เริ่มฉีด 9 ส.ค.นี้



  • บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าได้มากสุด 7 แสนโดส
  • เว้นระยะห่างจากเข็มแรก 3 สัปดาห์
  • วัคซีนสามารถเก็บได้แค่ 1 เดือนเท่านั้น

วันที่ 30 ก.ค.2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงแผนกระจายวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส ที่ได้รับบริจาคและเข้าไทยเป็นที่เรียบร้อยในช่วงเช้าวันนี้ (30 ก.ค.ที่ผ่านมา) โดยวัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับมาจำนวน 1.5 ล้านโดส จะต้องนำสู่เข้ากระบวนการตรวจสอบคุณภาพและระหว่างนั้นดำเนินการคู่ขนานคืออบรมการฉีดวัคซีนเนื่องจากเป็นวัคซีนแบบชนิดเข้มข้น

สำหรับการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์แบ่งเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.บุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า (เข็ม 3 กระตุ้นภูมิคุ้มกัน) จำนวน 700,000 โดส 2.กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปและคนทั้ง 12 สัปดาห์ขึ้นไป จำนวน 645,000 โดส 3.ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย เน้นผู้สูงอายุ และโรคเรื้อรัง และผู้เดินทางไปต่างประเทศ ที่จำเป็นต้องรับวัคซีนไฟเซอร์ เช่น นักการทูต นักศึกษา 150,000 โดส และ4.เพื่อทำการศึกษาวิจัย (ได้รับการอนุมัติโดยคณะกรรมการวิจัยจริยธรรม) จำนวน 5,000 โดส

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า สำหรับขั้นตอนในการจัดการวัคซีนไฟเซอร์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. จะต้องนำวัคซีนที่ได้มาเข้าเก็บในคลังด้วยอุณหภูมิติดลบ 70-90 องศา ที่บริษัทซิลลิคฟาร์มา พร้อมส่งตัวอย่างตรวจสอบคุณภาพที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ก่อนที่ผลการตรวจสอบจะออกมาวันที่ 2 ส.ค.จากนั้นวันที่ 3-4 ส.ค. บริษัทฯ จึงจะทำการแพ็กวัคซีนเพื่อจัดส่ง และภายในวันที่ 5-6 ส.ค. วัคซีนลอตแรก ทั้งเข็มกระตุ้นของบุคลากรทางการแพทย์ และเข็มแรกสำหรับกลุ่มเสี่ยงจะถึงหน่วยบริการ

ส่วนวันที่ 7-8 ส.ค. จะเป็นหน้าที่ของ รพ.ที่เตรียมพร้อมการฉีด วันที่ 9 ส.ค. หน่วยบริการต่าง ๆ จะเริ่มฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ก่อนที่กลางเดือน ส.ค. จะจัดส่งวัคซีนเข็ม 2 สำหรับฉีดปลายเดือน ส.ค. ต่อไป

ส่วนกรณีการผสมวัคซีนไฟเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูง นพ.โอภาส กล่าวว่า 1 ขวดผสมได้ 2.25 มล. เฉลี่ยขวดละ 6 โดส โดยจะฉีดเข้ากล้ามเนื้อโดสละ 0.3 มล. ต่างจากวัคซีนตัวอื่น ๆ ที่ต้องฉีด 0.5 มล. ซึ่งต้องเว้นระยะห่าง 3 สัปดาห์ และเมื่อนำวัคซีนไปเก็บไว้ที่อุณหภูมิตู้เย็น 2-8 องศา จะต้องรีบใช้เนื่องจาก จะสามารถเก็บได้แค่ 1 เดือนเท่านั้น