โฆษกศบศ.เผยประชาชนแห่ใช้สิทธิมาตรการรัฐ 35.8 ล้านคน ยอดใช้จ่ายทะลุ 4.1หมื่นล้าน



  • ยิ่งใช้ยิ่งได้ ยังไม่เป็นไปตามเป้า เหตุห้างยังปิดให้บริการ
  • ย้ำ! “นายกฯ” ติดตามใกล้ชิดทั้งเยียวยาและรักษาผู้ติดเชื้อ

วันที่ 23 ก.ค.2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบศ.) กล่าวว่า จากที่รัฐบาลได้ออกมาตรการเยียวยาและการฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 เพิ่มกำลังซื้อในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ที่เปิดให้ประชาชนใช้สิทธิล่าสุดไปเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 โดยติดตามประเมินโครงการเป็นระยะ 

ทั้งนี้พบว่า ประชาชนทยอยจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าและใช้สิทธิผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและโครงการคนละครึ่งอย่างคึกคัก แต่การใช้สิทธิโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ยังไม่เป็นไปตามเป้า ซึ่งส่วนหนึ่งอาจมาจากการปิดห้างสรรพสินค้าในช่วงนี้ด้วย ทำให้กระทรวงการคลังพิจารณาปรับปรุงรายละเอียดของโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน และเร่งให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจตามเป้าหมายของโครงการ คือ 1.ขยายระยะเวลาการซื้อสินค้าหรือบริการที่จะได้รับ e-Voucher จากเดิมถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 เป็นถึงวันที่ 31 พฤศจิกายน 2564 2.เพิ่มวงเงินการใช้จ่ายสูงสุดที่จะนำมาคำนวณ e-Voucher  จากเดิม 5,000 บาท เป็นสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาทต่อคนต่อวัน โดยยังจำกัดวงเงินใช้จ่ายสูงสุด ไม่เกิน 60,000 บาทต่อคน 3. ปรับลดจำนวนกลุ่มเป้าหมายของโครงการฯ จากเดิม 4 ล้านสิทธิ์ เป็น 1.4 ล้านสิทธิ์  โดยกรอบวงเงินโครงการ ฯ ลดลงจาก 28,000 ล้านบาท เป็น 9,800 ล้านบาท หรือลดลงประมาณ 18,200 ล้านบาท

นายธนกร กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลออกมาตรการลดภาระค่าครองชีพ กระตุ้นเศรษฐกิจออกไป มีเสียงตอบรับจากประชาชนทั่วประเทศ ใช้จ่ายผ่านโครงการอย่างต่อเนื่อง ทำให้ขณะนี้ยอดการใช้จ่ายของแต่ละโครงการ ผู้ใช้สิทธิสะสมรวม รวม 35.8 ล้านคน ยอดใช้จ่าย สะสม รวม 41,847.8 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 22 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 38,569.4 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 19,508.1 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 19,061.4 ล้านบาท  2.โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 54,007 คน ยอดใช้จ่ายสะสม 544 ล้านบาท  3.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 13 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 2,584.4 ล้านบาท และ4.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 759,155 คน ยอดใช้จ่ายสะสม 150 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการพัฒนาระบบกลาง เพื่อให้ผู้ให้บริการ Food Delivery Platform สามารถเชื่อมต่อกับระบบของโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 เพื่อประชาชนจะสามารถใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 ในการสั่งอาหารผ่าน Food Delivery Platform ได้รวดเร็ว สอดคล้องกับมาตรการป้องกันโควิด-19 ส่วนยอดการลงทะเบียนล่าสุดของวันที่ 23 ก.ค. 2564 โครงการคนละครึ่งมีการลงทะเบียนแล้ว 29.77 ล้านคน เหลืออีก 1.23 ล้านคน จะครบ 31 ล้านคน ส่วนโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ที่ปรับลดเหลือ 1.4 ล้านสิทธิ ขณะนี้เหลืออีก 940,668 สิทธิ โดยประชาชนสามารถใช้จ่ายในโครงการต่างๆ ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 นี้

ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนทุกคน และจะดำเนินการเยียวยาควบคู่ไปกับการดำเนินการป้องกันและรักษาผู้ติดเชื้ออย่างเต็มที่