

- พบครั้งแรกในอเมริกาใต้ระบาดหนักในเปรู ชิลี อาร์เจนตินา
- งานวิจัยพบกลายพันธุ์หลายจุดในโปรตีนส่วนหนาม
- อาจส่งผลต่อการแพร่เชื้ออย่างรวดเร็ว-เฝ้าระวังใกล้ชิด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) พบเชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ “แลมบ์ดา” (Lambda) ใน 29 ประเทศ โดยเฉพาะทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งเชื่อว่าเป็นแหล่งกำเนิดของเชื้อไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์ดังกล่าว
รายงานประจำสัปดาห์ของ WHO ระบุว่า โควิด-19 สายพัน์แลมบ์ดา ซึ่งพบครั้งแรกในเปรู จัดเป้นสายพันธุ์ที่ต้องให้ความสนใจ เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากในทวีปอเมริกาใต้
ทั้งนี้ เปรูตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ดังกล่าวแล้วมากถึง 81% นับตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ส่วนชิลี พบแล้วกว่า 32% ในช่วง 60 วันที่ผ่านมา เป็นรองเพียงสายพันธุ์แกมมา (Gamma) ที่พบครั้งแรกในบราซิล ส่วนประเทศอื่น อย่าง อาร์เจนตินา เอกวาดอร์ พบรายงานการติดเชื้อเพิ่มขึ้นของสายพันธุ์ใหม่เช่นกัน
WHO รายงานว่า สายพันธุ์แลมบ์ดา มีการกลายพันธุ์หลายจุดในโปรตีนส่วนหนาม ซึ่งอาจส่งผลต่ออัตราการแพร่กระจาย หรือทำให้เชื้อไวรัสต่อต้านแอนติบอดีมากขึ้น แต่ยังไม่มีงานวิจัยมากเพียงพอที่จะทำความเข้าใจเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้ได้อย่างสมบูรณ์ หรือยังไม่มีการพิสูจน์ว่า จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนอย่างร้ายแรงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม WHO กำลังเฝ้าระวังสายพันธุ์แลมบ์ดาอยู่
นอกจากนี้ WHO ยังระบุอีกว่า ส่วนเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา (Delta) ที่พบครั้งแรกในอินเดีย ได้แพร่กระจายไปยังประเทศต่างๆ แล้วกว่า 80 ประเทศ และอาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการหนักกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ด้วย อีกทั้ง ยังเชื้อดังกล่าว ยังคงมีกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง ขณะที่สหรัฐฯตรวจพบสายพันธุ์เดลตา 10% ของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ทั้งหมด นอกจากนี้ WHO ยังติดตามรายงานการตรวจพบสายพันธุ์ “เดลตา พลัส” (Delta Plus) เมื่อไม่นานมานี้ด้วย
ทั้งนี้ WHO มีการติดตามเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่า 50 สายพันธุ์ แต่ไม่ใช่ทุกสายพันธุ์จะเป็นอันตรายต่อสุขอนามัยระดับโลกจนต้องเพิ่มในรายชื่อเฝ้าระวัง