ธ.ก.ส.-กรุงไทย ผนึกกำลังยกระดับบริการ ถอนเงินผ่าน ATM ร่วมกันได้ไม่เสียค่าธรรมเนียม



  • เปิดให้ผู้ถือบัตร Debit ของ ธ.ก.ส.ให้อสม.ใช้ซื้อสินค้าได้
  • หนุนขายสินค้าผ่านฟีเจอร์ D-Market บนแอปฯ เป๋าตัง
  • หวังพัฒนาและเสริมความเข้มแข็งสู่เศรษฐกิจฐานราก

ธ.ก.ส.-กรุงไทย ขานรับนโยบายกระทรวงการคลัง จับมือยกระดับการบริการและการพัฒนาสู่ชุมชน ภายใต้โครงการ Sustainable Synergy สร้างโอกาสและความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจฐานราก ผ่านการให้บริการเครือข่ายเครื่อง ATM ร่วมกัน การให้ผู้ถือบัตร Debit ของ ธ.ก.ส. ซื้อสินค้าและบริการผ่านเครื่อง EDC ของธนาคารกรุงไทย และถอนเงินสดผ่านเครื่อง EDC ของ Banking Agent  การเชื่อมโยงบัญชี e-wallet บริการดิจิทัลคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มให้เกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน จำหน่ายสินค้าผ่านฟีเจอร์ D-Market บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง และใช้วายุคลาวด์ไปเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาระบบโปรแกรมปฏิบัติงานของธนาคารต้นไม้และกองทุนหมู่บ้าน

วันที่ 2 มิ.ย.2564 นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทย และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ร่วมลงนามความร่วมมือในโครงการ “Sustainable Synergy ประสานพลังสถาบันการเงินแห่งรัฐ พัฒนาไทยสู่ความยั่งยืน” เพื่อร่วมพัฒนาและยกระดับบริการทางการเงินให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึงผ่านช่องทางที่หลากหลาย สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก และช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคม จำนวน 5 โครงการ ประกอบด้วย 

1.การให้บริการเครือข่ายเครื่อง ATM ร่วมกัน (White-Label ATM) ให้ลูกค้าบัตรเดบิตและ บัตรเอทีเอ็มทั้ง 2 ธนาคาร สามารถทำธุรกรรมถอนเงิน และสอบถามยอดเงินคงเหลือ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมการทำรายการต่างธนาคาร นอกจากช่วยลดต้นทุนการทำธุรกรรมการเงินแล้ว ยังช่วยให้ลูกค้าทั้ง 2 ธนาคาร เข้าถึงการทำธุรกรรมผ่านตู้ ATM ได้สะดวกและครอบคลุมมากขึ้น ด้วยจำนวนตู้ ATM รวมกันกว่า 12,000 เครื่องทั่วประเทศ

2.เปิดให้ผู้ถือบัตร Debit ของ ธ.ก.ส. บัตรอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) บัตรอาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) และบัตรสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) สามารถซื้อสินค้าและบริการโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมผ่านเครื่อง EDC ของธนาคารกรุงไทย กว่า 76,000 เครื่องทั่วประเทศ ในร้านธงฟ้าประชารัฐ ร้านค้าทั่วไป และผ่านแอปพลิเคชันที่ร้านค้าถุงเงิน

3.บริการดิจิทัลคอมเมิร์ซแพลตฟอร์ม โดยสนับสนุนให้เกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน นำสินค้ามา  เสนอขายด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจและแตกต่างผ่านฟีเจอร์ D-Market บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่กว่า 30 ล้านคน ซึ่งจะช่วยให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน หนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ ตามแนวคิด “ไทยดี ไทยใช้ ไทยยั่งยืน”

4.การเชื่อมโยงบัญชี e-wallet สำหรับลูกค้า ธ.ก.ส. เพื่อใช้ชำระสินค้าและบริการผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง

5.บริการวายุคลาวด์ เป็นบริการคลาวด์สาธารณะภายในประเทศที่บริษัท กรุงไทยคอมพิวเตอร์เซอร์วิสเซส จำกัด (KTBCS) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือธนาคารกรุงไทยพัฒนาขึ้นเป็น Open Source Software ที่มีเสถียรภาพ ทันสมัย รองรับความต้องการใช้งานของประชาชนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านนายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการผนึกกำลังของสถาบันการเงินภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง โดยนำจุดแข็งของแต่ละแห่งมาสนับสนุนซึ่งกันและกัน เพื่อยกระดับการบริการ ทำให้ลูกค้าทั้ง 2 ธนาคาร ที่ถือบัตร ATM บัตร Debit และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถใช้บริการตู้ ATM ได้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมการทำรายการต่างธนาคาร

รวมถึงอำนวยความสะดวกให้ผู้ถือบัตร Debit ของ ธ.ก.ส. บัตรอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) บัตรอาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) และบัตรสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) จำนวนกว่า 2 ล้านใบ ได้รับประโยชน์จากการซื้อสินค้าและบริการโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมผ่านเครื่องรูดเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) ของธนาคารกรุงไทย และผู้ถือบัตร Debit ของ ธ.ก.ส. ยังสามารถถอนเงินสดผ่านเครื่อง EDC กับตัวแทนธนาคาร (Banking Agent) ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนด้านการใช้บริการทางการเงินให้กับลูกค้า

ส่วนด้านการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กรชุมชน โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล  ธ.ก.ส. ได้สนับสนุนให้เกษตรกร สถาบันเกษตร และผู้ประกอบการ SMEs เกษตร นำสินค้าคุณภาพดีจากชุมชนมาจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม Social Commerce เช่น ข้าวสารหอมมะลิ ตรา A-Rice ของสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. สุรินทร์ จำกัด (สกต.) ที่มีนวัตกรรมการกำจัดมอดโดยใช้คลื่นวิทยุ ทำให้ผู้บริโภคได้รับอาหารที่ปลอดภัยและข้าวสายพันธุ์พื้นเมืองที่ได้รับ GI เช่น ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่ ข้าวก่ำ และข้าวฮางงอก เป็นต้น  ผลิตภัณฑ์กระเป๋าแปรรูปจากต้นกล้วย แบรนด์ “ตานี” จังหวัดราชบุรี  น้ำช่อดอกมะพร้าว 100% แบรนด์ “Hayoung have a health” จังหวัดสมุทรสาคร และผลไม้ตามฤดูกาลจากกลุ่มเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศ เป็นต้น ซึ่งนอกจากทำให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าคุณภาพจากเกษตรกรผู้ผลิตโดยตรงแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชน  และการเชื่อมโยงบัญชี e-wallet เพื่อให้ลูกค้า ธ.ก.ส. สามารถชำระสินค้าและบริการผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง ซึ่งเป็นการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงร้านค้าได้ ตามนโยบายรัฐบาลและเพิ่มสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ

“ในส่วนของวายุคลาวด์ ธ.ก.ส. จะนำมาพัฒนาแอปพลิเคชันโครงการสำคัญ ๆ เพื่อต่อยอดด้านการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์ต่อชุมชนมากขึ้น รวมถึงสนับสนุนกองทุนหมู่บ้านและกลุ่มการเงินในชนบทที่ ธ.ก.ส. ดูแลกว่า 28,000 แห่ง ให้มีระบบการบริหารจัดการที่เป็นมาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ เช่น การจัดทำโปรแกรมช่วยปฏิบัติงานด้านสินเชื่อ เงินฝาก และระบบบัญชี เพื่อให้องค์กรการเงินชุมชน มีการยกระดับไปสู่การเป็นสถาบันการเงินประชาชนที่มีประสิทธิภาพ ช่วยสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของคนในชนบท และช่วยแก้ปัญหาหนี้สินนอกระบบ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ”