- ตลาดหุ้นสหรัฐฟื้น หลัง รองประธานเฟด ยืนยันว่า เยังไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน
- มีแรงข้อนซื้อกลับหุ้นในแทบทุกกลุ่ม หลังนักลงทุนคลายกังวลเงินเฟ้อ
- ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานใหม่ยังลดลงต่อเนื่อง แสดงเศรษฐกิจฟื้นตัว
เมื่อเวลา 22.10 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ34,046.20 จุด เพิ่มขึ้น 458.54 จุด หรือ +1.37% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 13,166.38 จุด เพิ่มขึ้น 134.70 จุด หรือ +1.03% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,115.66 จุด เพิ่มขึ้น 52.62 จุด หรือ 1.28%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีแรงซื้อกลับ จากการให้สัมภาษณ์ของนายริชาร์ด แคลริดา รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่า เฟดจะยังไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐทรุดหนักวานนี้ จากความกังวลที่อัตราเงินเฟ้อเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้นสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด ซึ่งนักลงทุนคาดว่า ประเด็นดังกล่าวจะกดดันให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ รวมทั้งลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
นายแคลริดายืนยันว่า ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด และอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นอย่างมากในเดือนเม.ย. จะไม่ทำให้เฟดเปลี่ยนแปลงแนวทางการสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเฟดจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่งก่อนที่จะพิจารณาปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากช้อนซื้อหุ้นในกลุ่มที่ร่วงหนักวานนี้ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีฟื้นตัวขึ้น
ขณะที่หุ้นกลุ่มธุรกิจเรือสำราญและสายการบิน รวมทั้งหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐต่างดีดตัวขึ้น หลังตัวเลขเศรษฐกิจยังแสดงทิศทางการขยายตัวต่อเนื่อง
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ประกาศออกมาเพิ่มเติม กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 473,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563
นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 490,000 ราย และต่ำกว่าสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 507,000 ราย
อย่างไรก็ดี ถึงแม้ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ก็ยังคงสูงกว่าระดับ 230,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลงสู่ระดับ 3.66 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.2563
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ดีดตัวขึ้น 0.6% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.3% เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 6.2% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2553 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 3.8%
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดีดตัวขึ้น 0.7% ในเดือนเม.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.4%
