- เติบโต4.12%สูงสุดในรอบ29เดือน
- สะท้อนการเติบโตของภาคการผลิต
- ชี้โควิดระลอก3ไม่กระทบต่อกลุ่มแรงงาน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สถานการณ์ ภาคการผลิตอุตสาหกรรมเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 107.73 เพิ่มขึ้น 4.12% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน กลับมาเป็นบวกและเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 29 เดือน (ต.ค. 2561 – ก.พ. 2564) และอัตราการใช้กำลังการผลิต อยู่ที่ 69.59% จากเดือนก.พ. อยู่ที่ 65.06% สะท้อนให้เห็นแนวโน้มภาคการผลิตของประเทศเติบโตตามเศรษฐกิจของโลกที่ดีขึ้น และการแพร่ระบาดของโควิด-19 รัฐบาลไม่ได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์ และกลุ่มแพร่ระบาดไม่ได้อยู่ในกลุ่มแรงงาน โรงงาน ดังนั้น ภาคการผลิตอุตสาหกรรมยังคงประกอบกิจการได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับรัฐบาลยังคงมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการเราชนะ เรารักกัน และเตรียมออกคนละครึ่งเฟส 3
“ขณะเดียวกันประเทศไทยเริ่มทยอยฉีดวัคซีนให้ประชาชนและมีแผนบริหารจัดการวัคซีน ให้ครอบคลุมทั่วประเทศภายในสิ้นปีนี้ ทำให้ความเชื่อมั่นทั้งในภาคการผลิตและการบริโภคดีขึ้น”
ท้ังนี้ ไตรมาสแรกของปีนี้(ม.ค.-มี.ค. ) เอ็มพีไอขยายตัว 0.25% และอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ย 67.09% ถือเป็นสัญญาณที่ดี โดยสศอ.คาดการเอ็มพีไอปีนี้อยู่ที่ 2.3% และอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)ภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ 2.5-3.5% โดยอุตสาหกรรมสำคัญๆ ที่ขยายตัว ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ ขยายตัว 7.53% อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าขั้นมูลฐาน ขยายตัว 19.19% อุตสาหกรรมน้ำตาล ขยายตัว 26.89% อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ ขยายตัว 42.76% อาหารสัตว์สำเร็จรูป ขยายตัว 15.48%
นายสุริยะ กล่าวว่า ในเดือนเม.ย.นี้ แม้จะมีการระบาดของโควิด-19 รอบ3 จนกระทบเศรษฐกิจในประเทศให้ชะลอตัวลง แต่จากการติดตามข้อมูลภาคอุตสาหกรรม คาดว่าจะยังคงเติบโตจากการภาคส่งออก ประกอบกับตัวเลขเอ็มพีไอเดือนเม.ย. 2563เป็นฐานต่ำ จะทำให้ปีนี้เติบโตแน่นอน นอกจากนี้การระบาดของโควิด-19 รอบนี้ไม่ได้อยู่ในกลุ่มแรงงาน การผลิตจึงเดินหน้าต่อไปได้ นอกจากนี้สถานการณ์ค่าเงินบาทยังอ่อนค่าในระดับที่สร้างแต้มต่อให้ผู้ส่งออกไทย ล่าสุดวันที่ 23 เม.ย. อยู่ที่ 31.40 บาทต่อเหรียญสหรัฐ อ่อนค่าลงจากวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 29.90 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ
#Thejournalistclub #ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม#โควิด19
