กรมศุล โวจัดเก็บรายได้ช่วงโควิดเพิ่มขึ้น ชี้เครื่องเอ็กซเรย์จับ“ยาเสพติด-แบรนด์เนม”ลักลอบได้เพียบ



  • เล็งติดตั้งเครื่องเอ็กซเรย์ในสนามบินดอนเมือง-ภูเก็ตต่อไป
  • คาดทั้งปียังจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมศุลกากรสามารถจัดเก็บรายได้สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ 2563 และยังถือว่าเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังกรมเดียวที่สามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยการจัดเก็บรายได้ส่วนใหญ่เป็นมาจากการนำเข้ารถยนต์ และสินค้าทุน เช่น โรงงานนำเข้าเครื่องจักร เป็นต้น

ส่วนการจัดเก็บรายได้ของกรมศุลกากรในปีงบประมาณ 2564 จะต่ำกว่าเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณ 104,000 ล้านบาทแน่นอน เนื่องจากช่วงที่ประเมินการจัดเก็บรายได้พิจารณาบนฐานผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)ขยายตัว 5%

“ศุลกากรเป็นกรมเดียวที่จัดเก็บรายได้ได้สูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว แต่อย่าเปรียบเทียบกับเป้าหมายการจัดเก็บรายได้เพราะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เนื่องจากปีนี้เกิดสถานการณ์โควิด ทำให้การประเมินจีดีพีในปี 2564 ต่ำกว่าที่คาดไว้”

นายพชร กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจ ว่า ขณะนี้บรรยากาศทั่วโลกเริ่มดีขึ้น หลังจากเริ่มมีวัคซีนเข้ามา บรรยากาศในการจับจ่ายใช้สอยต่างๆ ดีขึ้น ขณะเดียวกันผลนโยบายของรัฐบาลที่ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ และแนวโน้มตัวเลขการนำเข้าสินค้าก็ดูดีขึ้น หากเทียบกับช่วงปลายเดือนธ.ค.63 และต้นเดือนม.ค.64 ซึ่งขณะนี้ตัวเลขการนำเข้าส่งสัญญาณดีขึ้น เริ่มมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการจัดเก็บรายได้ของกรมด้วย

นอกจากนี้ในช่วงต้นปี 2564 ที่สนามบินสุวรรณภูมิได้ติดตั้งเครื่องเอกซเรย์แบบคร่อมสายพานเรียบร้อยแล้วทั้ง 23 เครื่อง มูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายและสินค้าที่หลีกเลี่ยงการเสียภาษีที่นำเข้าจากต่างประเทศ 

ทั้งนี้หลังจากติดตั้งเครื่องคร่อมสายพานฯ ปรากฏว่าสามารถจับกุมของผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด สินค้าแบรนด์เนม เป็นต้น ได้มากขึ้น ดังนั้นจึงเตรียมขยายนำเครื่องเอ็กซเรย์คร่อมสายพานเหล่านี้ไปติดตั้งที่สนามบินดอนเมือง และสนามบินภูเก็ตต่อไป แต่ทั้งนี้จะต้องดูในเรื่องของงบประมาณก่อนด้วย

“หลังจากมีเครื่องคร่อมสายพานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับ พบว่าในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด กรมศุล สามารถตรวจจับสินค้าผิดกฎหมาย โดยเฉพาะสินค้าแบรนด์เนมได้จำนวนมาก ซึ่งส่วนมากมาจากประเทศแถบยุโรป ลักลอบเข้ามาไทยผ่านทางกระเป๋าโดยสารซึ่งต้องมาอยู่ในกระบวนการกักตัวที่ไทย14 วัน  ซึ่งบุคคลกลุ่มนี้ส่วนมากเป็นรายเดิมๆ ที่เคยกระทำผิดมาแล้ว”

นายพชร กล่าวต่อว่า ในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด ทางเจ้าหน้าที่กรมศุลไม่อยากจะไปเปิดกระเป๋าตรวจดูเหมือนกันเพราะเกรงว่าจะติดโควิด-19  แต่พอมีเครื่องเอกซเรย์แบบคร่อมสายพาน  ที่สามารถสแกนสินค้าในกระเป๋าได้ก็ลดความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่ได้ ทั้งยังช่วยเจ้าหน้าที่ในการตรวจจับสินค้าได้มากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูลจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2564 กรมภาษี ได้แก่ กรมสรรพากร สรรพสามิต และกรมศุลกากร จัดเก็บรายได้ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ 2563 ทั้งหมด แบ่งเป็น 1. กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้ 486,655 ล้านบาท จากปีที่แล้วเก็บได้ 540,643 ล้านบาท 2.กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้ 192,331 ล้านบาท จากปีที่แล้วเก็บได้ 212,681 ล้านบาท และ 3.กรมศุลกากร จัดเก็บรายได้ 32,853 ล้านบาท จากปีที่แล้วเก็บได้ 35,378 ล้านบาท