

วันที่ 2 มีนาคม 2564 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง กล่าวถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องการปรับ ครม. นั้น เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค ส่วนตนเป็นแค่ลูกพรรค และเป็นแค่ผู้อำนวยการพรรค หรือ แม่บ้านของพรรค จึงขึ้นอยู่กับท่านนายกและหัวหน้าพรรคพิจารณา ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวออกมา ทั้งตนจะขยับไปนั่งเก้าอี้ รมว.คลัง หรือ รมว.ศึกษาธิการ นั้น เป็นเพียงข่าวลือ และขณะนี้กระแสข่าวก็มีมาเรื่อยๆ อย่าง รมว.ศึกษา ก็มีรายชื่อ 5-6 คนแล้ว
“อย่าไปฟัง อยู่แบบนี้ดีที่สุดแล้ว อยู่ตรงไหนก็ทำงานได้ ขณะที่ รมว.คลังคนปัจจุบัน ก็ดีจะตาย ทำงานอย่างแข็งขัน มีความรู้ความสามารถเห็นภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศเพราะเคยอยู่สำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ มาก่อน ซึ่งตนก็พร้อมสนับสนุนการทำงานเต็มที่”
ส่วนกระแสภาคเอกชนไม่พอใจผลงานแก้ปัญหาเศรษฐกิจของทีมเศรษฐกิจชุดปัจจุบันนั้น เข้าใจได้ว่าภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลกต่างก็ได้รับผลกระทบ และรัฐบาลก็ทำงานอย่างเต็มที่ ขณะที่นายกรัฐมนตรีก็แก้ปัญหาได้ดีและยังได้รับคำชม มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นได้เร็วกว่าหลายประเทศแน่นอน
“การทำงานของทีมเศรษฐกิจ ขณะนี้ทุกคนก็ทำงานอย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนอาจอึดอัดบ้างในภาวะแบบนี้ แต่ขณะนี้ไทยเหมือนเป็นคนป่วย ซึ่งจะให้กินเครื่องดื่มบำรุงกำลังเลยยังไม่ถูกจังหวะ ซึ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาถือเป็นการประคองเศรษฐกิจไปก่อน”
ส่วนปัญหาเรื่องการแก้ไขปัญหาซอฟต์โลนที่มีความล่าช้านั้น เป็นเรื่องของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขณะนี้มีการเจรจาผ่อนคลายเงื่อนไข ซึ่งตามกระบวนการต้องมีการแก้กฎหมาย เบื้องต้น ทราบว่าผ่าน ครม. และยื่นสภาฯแล้ว อยู่ระหว่างรอสภาฯ พิจารณา โดยจะต้องรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ เรื่องการปรับเงื่อนไข พ.ร.ก. ซอฟต์โลนของแบงก์ชาติ เช่น เรื่องเงินกู้ ที่กำหนดให้สถาบันการเงินคิดดอกเบี้ยไม่เกิน 2% ซึ่งอาจต้องเปลี่ยนแปลงใหม่ เพราะเป็นข้อจำกัดที่ทำให้สถาบันการเงินไม่กล้าปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากความเสี่ยงสูงและหากกลายเป็นหนี้เสียอาจทำสถาบันการเงินขาดทุนได้ ส่วนจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นลงมากน้อยเท่าไหร่นั้น ยังต้องมาพิจารณาให้รอบคอบเพราะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน