

วันนี้ (25 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีศาลอาญาพิพากษาจำคุกบุคคลที่เป็นรัฐมนตรีกรณีร่วมชุมนุมกับกลุ่ม กปปส. จึงต้องหลุดจากตำแหน่งทันทีใช่หรือไม่ว่า เป็นธรรมดาที่ทราบกันอยู่แล้ว รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดในเรื่องของการพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีเฉพาะตัวตามาตรา 170 ซึ่งตามรัฐธรรมนูญจะต้องโยงกับกฎหมายหลายมาตรา โดย ม.170 (4) ระบุว่า ความเป็นรัฐมนตรีย่อมสิ้นสุดลงตามเป็นการเฉพาะตัว เมื่อมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 160 (7) ที่ระบุถึงการต้องคำพิพากษาให้จำคุก ดังนั้น เมื่อศาลพิพากษาให้จำคุก ไม่ว่าจะถึงที่สุดหรือไม่ แต่รัฐธรรมนูญให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงอย่างชัดเจน
ส่วนกรณีคนที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่บัญญัติไว้ในมาตรา 101 (13) โดยปกติหากศาลยังไม่ตัดสินถึงที่สุดให้จำคุกก็จะยังไม่พ้น แต่จะมีเหตุอื่นเข้ามา เช่น ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง ก็จะโยงไปถึงการเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง มาตรา 96 (2) ที่ระบุว่าหากเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ไม่ว่าคดีจะถึงที่สุดหรือไม่ ก็จะพ้นจากความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรด้วย ส่วนบุคคลที่ศาลไม่ได้เพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง โดยหลักแล้วการจำคุกก็ยังไม่ถึงที่สุด สิทธิเลือกตั้งก็ไม่ถูกเพิกถอนจึงยังไม่พ้นจากความเป็น ส.ส. แต่ก็มีเหตุอื่นแทรกเข้ามาอีกว่าหากถูกจำคุกตามคำพิพากษาของศาล และมีหมายของศาลให้จำคุกกรณี เช่นนั้นก็จะพ้นด้วย แต่ตนไม่ทราบว่าใครเข้าข่ายดังกล่าวบ้าง
ส่วนกรณี ส.ส.บัญชีรายชื่อก็ต้องเลื่อนขึ้นมาตามลำดับ ซึ่งการเลื่อนช้าหรือเร็วนั้นจะมีผลต่อการประชุมสภา เนื่องจากสภากำลังจะปิดสมัยประชุมและถ้าเลื่อนเร็วก็เข้ามาทำหน้าที่ได้เร็ว อย่างน้อยถ้าเปิดสมัยวิสามัญขึ้นมาพิจารณา รัฐธรรมนูญก็จะได้ทำหน้าที่ได้ แต่ถ้ายังไม่เลื่อนขึ้นมาก็ยังไม่ถือเป็น ส.ส. ส่วน ส.ส.เขตก็ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ หาก กกต.สงสัยก็จะเหมือนกรณีของนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ที่ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะเลือกตั้งเขตจะต้องออกเป็นพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ทั้งนี้ กรณีของนายเทพไทก็ถือเป็นบรรทัดฐานไว้แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับกรณีตำแหน่งรัฐมนตรีเมื่อว่างลง จำเป็นจะต้องรีบแต่งตั้งใหม่หรือ นายวิษณุกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ยากอะไรเนื่องจาก รมว.ศึกษาธิการ มี รมช.อยู่ 2 คน ซึ่ง ครม.เคยมีมติไปแล้วว่าหากรัฐมนตรีว่าการไม่อยู่ ก็ให้รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ มารักษาการตามลำดับ ซึ่งกรณีนี้คือคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขึ้นมารักษาการ
ส่วนกรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ครม.เคยมีมติในเมื่อกระทรวงนี้ไม่มีรัฐมนตรีช่วยก็ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการรักษาการแทนเป็นอันดับแรก และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมรักษาการเป็นอันดับสอง ซึ่งในกรณีนี้ รมว.วัฒนธรรม (นายอิทธิพล คุณปลื้ม) จะเป็นผู้รักษาการ จนกว่าเมื่อมีการประชุมคณะรัฐมนตรีแล้วนายกรัฐมนตรีอาจจะสั่งการเป็นอย่างอื่นได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พูดคุยและหารือถึงเรื่องดังกล่าวกับนายวิษณุหรือยัง นายวิษณุกล่าวว่า ยังไม่ได้คุย
ผู้สื่อข่าวถามว่า เอกสิทธิ์ของผู้แทนราษฎรในสมัยประชุมสภาจะสามารถคุ้มครองผู้ที่เป็น ส.ส.ได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า อย่าใช้คำว่าเอกสิทธิ์ เนื่องจากมีเรื่องของเอกสิทธิ์กับความคุ้มกัน คำว่าเอกสิทธิ์หมายถึงการพูดในสภาแล้วไม่ผิด คือเฉพาะเรื่องการพูดเรื่องเดียว แต่ถ้าเป็นเหตุชกกันก็ไม่มีเอกสิทธิ์ ส่วนความคุ้มกันหมายความว่า ในสมัยประชุมจะนำตัวไปดำเนินคดีอะไรไม่ได้ ถ้าปิดสมัยประชุมทำได้ ซึ่งความคุ้มกันมีกระบวนการ ไม่ได้มาโดยอัตโนมัติ
เมื่อถามว่ากรณีที่ถูกจำคุกแล้วยังจะสามารถขอความคุ้มกันได้อยู่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า คนที่เป็น ส.ส.แล้วเข้าเรือนจำยังไม่ถือว่าสิ้นสภาพการเป็น ส.ส.ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าเป็นการถูกจำคุกโดยหมายของศาลหรือไม่ เพราะอาจเป็นการควบคุมตัวธรรมดา หากเขาอ้างความคุ้มกันขึ้นมาก็ต้องปล่อยตัว เพราะถือว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการอุทธรณ์
เมื่อถามย้ำว่าหากเป็นการเข้าเรือนจำโดยหมายของศาล การคุ้มครองในฐานะของ ส.ส.ก็จะหมดไปเลยใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ใช่
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับกรณีของนางทยา ทีปสุวรรณ ที่ถูกตัดสินให้รอลงอาญา ในขณะที่มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิทางการเมือง 5 ปี หากสุดท้ายศาลพิพากษาแก้ประเด็นการตัดสิทธิทางการเมือง นางทยาจะกลับมามีสิทธิทางการเมืองอีกได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ได้ แต่ในขณะนี้ถือว่าถูกตัดสิทธิทางการเมืองจนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำตัดสินเป็นอย่างอื่น
เมื่อถามว่าในกรณีที่คนเป็น ส.ส.ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปีเช่นกัน จะสามารถอุทธรณ์ในประเด็นถูกตัดสิทธิทางการเมืองได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า การเป็น ส.ส.ขาดแล้วก็ขาดไป แต่เรื่องสิทธิทางการเมืองถ้าศาลพิพากษาว่าไม่เพิกถอนสิทธิทางการเมืองก็จะกลับมา นี่คือความรุนแรงของรัฐธรรมนูญในปัจจุบัน
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แม้จะยื่นอุทธรณ์แล้วสิทธิกลับมา แต่ไม่สามารถคืนสภาพ ส.ส.ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ใช่ แม้กระทั่งรัฐมนตรีก็เช่นกัน ถูกจำคุกแต่ไม่ถึงที่สุดก็พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี ถ้าต่อมาศาลยกฟ้อง ไม่จำคุก ก็แปลว่าไม่จำคุกเท่านั้น แต่ความเป็นรัฐมนตรีจะไม่กลับมา นี่คือยาแรงของรัฐธรรมนูญ
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากในอนาคต บุคคลเหล่านี้จะกลับมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ได้ เพราะต้องดูต่อไปว่าเมื่อมีการเลือกตั้งใหม่ บุคคลเหล่านั้นจะมีสิทธิหรือไม่ เช่น กรณีเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หากศาลอุทธรณ์มีคำตัดสินว่าไม่ตัดสิทธิเลือกตั้ง ความเป็น ส.ส.สิ้นสุดลงเวลานี้ แต่สามารถสมัครในคราวหน้าได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับกรณีตำแหน่งรัฐมนตรีเมื่อว่างลง จำเป็นจะต้องรีบแต่งตั้งใหม่หรือ นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ยากอะไรเนื่องจาก รมว.ศึกษาธิการ มี รมช.อยู่ 2 คน ซึ่ง ครม.เคยมีมติไปแล้วว่าหากรัฐมนตรีว่าการไม่อยู่ ก็ให้รัฐมนตรีช่วย มารักษาการตามลำดับ ซึ่งกรณีนี้คือคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขึ้นมารักษาการ
ส่วนกรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) ครม.เคยมีมติในเมื่อกระทรวงนี้ไม่มีรัฐมนตรีช่วย ก็ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการรักษาการแทนเป็นอันดับแรก และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมรักษาการเป็นอันดับสอง ซึ่งในกรณีนี้ รมว.วัฒนธรรม(นายอิทธิพล คุณปลื้ม)จะเป็นผู้รักษาการ จนกว่าเมื่อมีการประชุมคณะรัฐมนตรีแล้วนายกรัฐมนตรีอาจจะสั่งการเป็นอย่างอื่นได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พูดคุยและหารือถึงเรื่องดังกล่าวกับนายวิษณุหรือยัง นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุย
ผู้สื่อข่าวถามว่า เอกสิทธิ์ของผู้แทนราษฎรในสมัยประชุมสภา จะสามารถคุ้มครองผู้ที่เป็น ส.ส.ได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อย่าใช้คำว่าเอกสิทธิเนื่องจากมีเรื่องของเอกสิทธิกับความคุ้มกัน คำว่าเอกสิทธิหมายถึงการพูดในสภาแล้วไม่ผิด คือเฉพาะ เรื่องการพูดเรื่องเดียวแต่ถ้าเป็นเหตุชกกันก็ไม่มีเอกสิทธิ์ ส่วนความคุ้มกันหมายความว่า ในสมัยประชุมจะนำตัวไปดำเนินคดีอะไรไม่ได้ ถ้าปิดสมัยประชุมทำได้ ซึ่งความคุ้มกัน มีกระบวนการ ไม่ได้มาโดยอัตโนมัติ
เมื่อถามว่ากรณีที่ถูกจำคุกแล้วยังจะสามารถขอความคุ้มกันได้อยู่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า คนที่เป็น ส.ส.แล้วเข้าเรือนจำ ยังไม่ถือว่าสิ้นสภาพการเป็น ส.ส. ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าเป็นการถูกจำคุกโดยหมายของศาลหรือไม่ เพราะอาจเป็นการควบคุมตัวธรรมดา หากเขาอ้างความคุ้มกันขึ้นมาก็ต้องปล่อยตัว เพราะถือว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการอุทธรณ์
เมื่อถามย้ำว่าหากเป็นการเข้าเรือนจำโดยหมายของศาล การคุ้มครองในฐานะของ ส.ส. ก็จะหมดไปเลยใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับกรณีของนางทยา ทีปสุวรรณ ที่ถูกตัดสินให้รอลงอาญา ในขณะที่มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิทางการเมือง 5 ปี หากสุดท้ายศาลพิพากษาแก้ประเด็นการตัดสิทธิทางการเมือง นางทยาจะกลับมามีสิทธิทางการเมืองอีกได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้ แต่ในขณะนี้ กว่าถือว่าถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองจนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำตัดสินเป็นอย่างอื่น
เมื่อถามว่าในกรณีที่คนเป็น ส.ส.ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปีเช่นกัน จะสามารถอุทธรณ์ในประเด็นถูกตัดสิทธิทางการเมืองได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า การเป็น ส.ส.ขาดแล้วก็ขาดไป แต่เรื่องสิทธิทางการเมืองถ้าศาลพิพากษาว่าไม่เพิกถอนสิทธิทางการเมืองก็จะกลับมา นี่คือความรุนแรงของรัฐธรรมนูญในปัจจุบัน
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แม้จะยื่นอุทรณ์แล้วสิทธิกลับมา แต่ไม่สามารถคืนสภาพ ส.ส.ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่าใช่ แม้กระทั่งรัฐมนตรีก็เช่นกัน ถูกจำคุกแต่ไม่ถึงที่สุดก็พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี ถ้าต่อมาศาลยกฟ้อง ไม่จำคุก ก็แปลว่าไม่จำคุกเท่านั้นแต่ความเป็นรัฐมนตรีจะไม่กลับมา นี่คือยาแรงของรัฐธรรมนูญ
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากในอนาคต บุคคลเหล่านี้จะกลับมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้ เพราะต้องดูต่อไปว่า เมื่อมีการเลือกตั้งใหม่ บุคคลเหล่านั้นจะมีสิทธิ์หรือไม่ เช่น กรณีเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หากศาลอุทธรณ์มีคำตัดสินว่าไม่ตัดสิทธิเลือกตั้ง ความเป็น ส.ส.สิ้นสุดลงเวลานี้แต่สามารถสมัครในคราวหน้าได้