พาณิชย์เดินหน้าลุยจัดการร้านค้าเอาเปรียบ



  • ปลดร้านธงฟ้าแล้ว 45 ร้านค้า หลังโกงประชาชน
  • หมดสิทธิ์รับชำระเงินบัตรคนจน-คนละครึ่ง-เราชนะ
  • ปรับอีก 67 ร้านไม่ปิดป้ายราคา-ขายราคาไม่ตรงป้าย

นายสุพพัต อ่องแสงคุณ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์เดินหน้าตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการร้านธงฟ้า คนละครึ่ง และเราชนะ อย่างต่อเนื่อง โดยได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดตรวจสอบร้านค้าทั่วประเทศ เพื่อป้องปราบการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาเอาเปรียบประชาชน โดยล่าสุด ได้ระงับสิทธิ์การเป็นร้านธงฟ้าแล้ว 45 ราย เพราะกระทำผิดเงื่อนไข ทั้งรับแลกเงินสด 35 ราย ไม่ปิดป้ายราคา 2 ราย ปรับราคาโดยไม่มีเหตุผล 3 ราย ยึดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจากลูกค้า 4 ราย และขายเหล้าบุหรี่ 1 ราย ทำให้ร้านค้าเหล่านี้ ไม่สามารถรับชำระเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือรับชำระเงินจากแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้อีกต่อไป 

สำหรับร้านค้าที่ไม่ได้เป็นร้านค้าธงฟ้า แต่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง หรือเราชนะ และต่อไปเรารักกันนั้น หากพบกระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการพ.ศ.2542 เช่น ไม่ปิดป้ายแสดงราคา ปรับขึ้นราคาโดยไม่มีเหตุผลอันควร เป็นต้น กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการตามกฎหมาย  กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคา มีโทษปรับ 10,000 บาท กรณีขายแพงเกินจริง มีโทษปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงจะรายงานผลไปยังกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาดำเนินการกับร้านค้าเหล่านั้นต่อไป 

ส่วนการร้องเรียนร้านค้าธงฟ้า คนละครึ่ง และเราชนะ ผ่านสายด่วนกรมการค้าภายใน โทร.1569 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.63-24 ก.พ.64 นั้น มีทั้งสิ้น 864 คำร้อง ส่วนใหญ่ร้องเรียนไม่ปิดป้ายแสดงราคา ขายแพง ปรับขึ้นราคา และแลกเป็นเงินสด ซึ่งได้ตรวจสอบแล้ว 649 คำร้อง พบกระทำความผิด 67 ราย เพราะไม่ปิดป้ายแสดงราคา และขายไม่ตรงตามที่ปิดป้าย ซึ่งได้เปรียบเทียบปรับไปแล้ว ส่วนการขายแพงเกินสมควร ยังไม่พบการกระทำผิด ส่วนที่เหลืออีก 215 คำขออยู่ระหว่างดำเนินการ 

“ขอฝากประชาชนที่พบเห็นการขายแพง และต้องการร้องเรียน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ขอให้เก็บหลักฐานถ่ายรูป ถ่ายคลิป ถ่ายราคาเอาไว้ด้วย และเวลาแจ้งร้องเรียน ขอให้ระบุพิกัดร้านค้าให้ชัดๆ ร้านชื่ออะไร อยู่ตรงไหนอย่าแจ้งแบบหว่านๆ เพราะจะทำให้การไปตรวจสอบทำได้ยาก และขอยืนยันว่า คนที่แจ้ง จะมีความปลอดภัย เพราะทุกเรื่องจะเก็บไว้เป็นความลับ” นายสุพพัต กล่าว