

- นักลงทุนกังวลคนทิ้งหุ้นแห่ซื้อพันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนสูง
- ตลาดติดตาม แถลงการณ์ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อสภาคองเกรส
- ติดตามมาตรกรกระตุ้นเศรษฐกิจ-แนวโน้มอัตราดอกเบี้ย
เมื่อเวลา 22.10 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 31,399.54 จุด ลดลง 94.78 จุด หรือ -0.30% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 13,726.34 จุด ลดลง 148.13 จุด หรือ -1.07% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,887.04 จุด ลดลง 19.67 จุด หรือ -0.50%
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงหลังเป็นกังวลอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง กดดันดอกเบี้ยตราสารหนี้ทั่วโลก รวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้รถยนต์ของสหรัฐ
โดยนักลงทุนวิตกว่าการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะลดความน่าดึงดูดของการลงทุนในหุ้น รวมทั้งทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายลดน้อยลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มมากขึ้นทำให้บริษัทต่างๆจะเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
นอกจากนั้น ตลาดยังกังวลด้วยว่าการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และตัวเลขเงินเฟ้อที่ส่งสัญญาณพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยุติการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน หลังจากที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% ต่อไปอีกราว 2 ปี
อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ดีดตัวขึ้น ถือเป็นการส่งสัญญาณความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากที่มีความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ให้แก่ชาวอเมริกันในวงกว้าง
นักลงทุนยังติดตาม แถลงการณ์รอบครึ่งปีของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ โดยนายพาวเวลจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพรุ่งนี้ และต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธ ทั้งนี้ ตลาดติดตามสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ, อัตราเงินเฟ้อ, ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ รวมทั้งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
การแถลงของนายพาวเวลในสัปดาห์นี้ถือเป็นครั้งแรกที่เขาจะกล่าวถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรสชุดใหม่ที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก็เป็นรัฐบาลที่มาจากพรรคเดโมแครตเช่นกัน