5เดือนยอดส่งออกภายใต้เอฟทีเอ-จีเอสพีพุ่ง

  • อาเซียนยอดใช้สิทธิส่งออกทะลุ3หมื่นล.เหรียญฯ
  • สินค้ายอดนิยมมีทั้งรถบรรทุก-ทุเรียนสด
  • จับตาสงครามการค้าหวั่นกระทบยอดทั้งปี

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงสถิติการใช้สิทธิประโยชน์สำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) และภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (จีเอสพี) ในช่วง 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.) ปี 62 ว่า มีมูลค่าการใช้สิทธิรวม 30,668.86 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.76% แยกเป็นการใช้สิทธิภายใต้เอฟทีเอ 12 ฉบับ มูลค่า 28,503.61 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 1.75% และการใช้สิทธิภายใต้จีเอสพี 4 ระบบ ประกอบด้วย สหรัฐฯ สวิตเซอร์แลนด์ รัสเซียและเครือรัฐเอกราช และนอร์เวย์ มูลค่า 2,165.25 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 18.25%

สำหรับการใช้สิทธิภายใต้เอฟทีเอ พบว่า ตลาดส่งออกที่ไทยมีมูลค่าการใช้สิทธิสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อาเซียน มูลค่า 10,284.62 ล้านเหรียญฯ ตามด้วยจีน 7,947.08 ล้านเหรียญฯ, ออสเตรเลีย 3,473.94 ล้านเหรียญฯ, ญี่ปุ่น 3,238.11 ล้านเหรียญฯ และอินเดีย 1,956.82 ล้านเหรียญฯ ส่วนสินค้าที่ใช้สิทธิสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ รถยนต์บรรทุก ผลิตภัณฑ์ยางสังเคราะห์ผสมยางธรรมชาติ ทุเรียนสด น้ำตาลจากอ้อย และผลไม้ประเภทฝรั่ง มะม่วง และมังคุดสดหรือแห้ง

ส่วนการใช้สิทธิภายใต้จีเอสพี พบว่า สหรัฐฯ มีมูลค่าสูงสุดที่ 1,987.73 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 12.86% สินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ฯ สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศ ถุงมือยาง เครื่องดื่มอื่นๆ เลนส์แว่นตา และแว่นตาอื่นๆ

”ต้องจับตาปัจจัยสำคัญที่จะกระทบต่อการส่งออก เช่น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัว ภาวะการเงินโลกที่ตึงตัว รวมถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากขึ้น ซึ่งอาจกระทบต่อเป้าหมายมูลค่าการใช้สิทธิ ในปี 62 แต่กรมจะผลักดันการใช้สิทธิอย่างเต็มที่ โดยตลาดที่มีโอกาสสูง คือ จีน เพราะไทยส่งออกสินค้าไปทดแทนสินค้าสหรัฐฯ ได้ ซึ่งช่วง 5 เดือน มีการขอใช้สิทธิภายใต้เอฟทีเออาเซียน-จีน 7,947.08 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 12.73% สินค้าที่ใช้สิทธิสูงสุด คือ เกษตรและเกษตรแปรรูป โดยเฉพาะผลไม้ ได้แก่ ทุเรียนสด มังคุดและมะม่วง ลำไย และมะพร้าว (ทั้งกะลา) และสินค้าเกษตรอื่น เช่น เนื้อและเครื่องในไก่แช่แข็ง และกุ้งแช่แข็ง”