42 ปี AOT อีกก้าวแห่งความท้าทาย สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน



การเดินทาง” ถือเป็นส่วนหนึ่งในการดำรงชีวิตของมนุษย์เราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางเพื่อไปทำงาน หารายได้มาดูครอบครัว เดินทางเพื่อพบปะผู้คน รวมถึงการเดินทางเพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ชีวิต เสมือนการออกไปท่องโลกเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ 

แน่นอนการเดินทางนั้น มีวิธีที่แตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสมของสถานที่ที่เป็นจุดหมาย หรือเลือกตามไลฟ์สไตล์ความชอบของผู้เดินทางเอง ซึ่งก็มีให้เลือกทั้งทางบกโดยใช้รถยนต์ รถไฟ รถไฟฟ้า เป็นพาหนะในการเดินทางทางน้ำ ก็เดินทางด้วยเรือ

นอกจากนี้อีกหนึ่งในการเดินทางที่สะดวก รวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาการเดินทาง รวมถึงทำให้นักเดินทาง สามารถเดินทางไปในสถานที่ไกลๆ ได้อย่างสบายนั้นคือ “การเดินทางทางอากาศ” โดยการเดินทางด้วยเครื่องบิน

.ความท้าทายที่แปรเปลี่ยนเป็นพลัง

เนื่องด้วยวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นี้ เป็นวันครบรอบ 42 ปี ของการดำเนินงานของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ AOT ผู้บริหารจัดการและพัฒนาสนามบินทั้ง 6 แห่งของประเทศ ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ 

รวมถึงนับเป็นปีแห่งความท้าทายครั้งสำคัญ ในการก้าวผ่านวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในครั้งนี้ ที่เชื้อร้ายตัวนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความร้ายแรงไม่ใช่เพียงแค่ต่อสุขภาพของมนุษย์เรา แต่ยังกระทบต่อระบบเศรษฐกิจกระทบต่อภาคธุรกิจต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบกันอย่างสาหัส

โดยทางรอดในด้านการประกอบธุรกิจ ในวิกฤตเช่นนี้คือ การปรับตัวให้ไว มีการระดมความคิดเพื่อหาทางออกให้เร็วรับฟังปัญหาจากทุกภาคส่วน เพื่อนำมาแก้ไขปรับปรุงให้การบริการมีประสิทธิภาพที่สุด กล้าที่จะเรียนรู้วิธีการการดำเนินธุรกิจใหม่ๆ เพื่อตามให้ทันยุคทันสมัย ให้ธุรกิจก้าวต่อไปได้ในทุกสมัยที่โลกได้มีการหมุนเปลี่ยนแปลง

.มุ่งมั่น ทุ่มเท เพื่อพัฒนาการบริการ

สำหรับ AOT ด้วยประสบการณ์ในการบริหารสนามบินมากว่า 42 ปี AOT ยังคงมุ่งมั่นยกระดับการให้บริการ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและสร้างรายได้อย่างสมดุล สู่การเป็นผู้ดำเนินการและจัดการท่าอากาศยานที่ดีระดับโลกด้วยการเพิ่มศักยภาพในการดำเนินงาน และสร้างสรรค์นวัตกรรมที่หลากหลาย เพื่อพัฒนาการบริการอย่างไร้ขีดจำกัด 

โดยการทุ่มเท ดำเนินการทำสิ่งต่างๆเหล่านี้ ก็เพื่อต้องการให้ AOT ก้าวไปสู่การเติบโตอย่างเข้มแข็ง และยั่งยืนภายใต้สถานการณ์ต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า AOT เป็นหนึ่งกลไกสำคัญในการสนับสนุน และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินรวมถึงเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวต่อไปข้างหน้า

.ไม่หยุดยั้ง วิธีการหารายได้เพิ่ม

นอกจากนี้ AOT ยังได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ โดยเพิ่มสัดส่วนรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบินให้มากขึ้น เพื่อสร้างฐานรายได้ที่มั่นคง และกระจายความเสี่ยง อาทิ ด้านการขนส่งสินค้า (Cargo) ธุรกิจการให้บริการบน Digital Platform และการตั้งบริษัทร่วมทุน 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานไทย จำกัด (AVSEC) บริษัท บริการภาคพื้นท่าอากาศยานไทย จำกัด (AOTGA) และบริษัท ท่าอากาศยานไทย ทาฟ่า โอเปอร์เรเตอร์ จำกัด(AOTTO)

ด้านการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นั้น AOT ได้มีการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ที่แล้วเสร็จไปกว่า 96% เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้อีก 15 ล้านคน จากเดิม 45 ล้านคน รวมเป็น 60 ล้านคนต่อปี พร้อมรถไฟฟ้าไร้คนขับ (Automated People Mover : APM) ซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 3,590 คนต่อชั่วโมง พร้อมอาคารจอดรถยนต์ และสำนักงานสายการบิน คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2565 

อีกทั้ง ยังมีการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 เพื่อบรรเทาความแออัดของเที่ยวบิน ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2566 นอกจากนี้ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง อยู่ระหว่างการก่อสร้าง Taxi Drop Lane โดยเพิ่มช่องจราจรจาก 2 ช่องจราจร เป็น 3 ช่องจราจรโดยจัดสรร 1 ช่องจราจรสำหรับแท็กซี่จอดส่งผู้โดยสาร และอีก 2 ช่องจราจรเป็นทางสัญจรสำหรับรถยนต์ตามเดิม 

พร้อมทั้งสร้างทางลาดเลื่อนอัตโนมัติ ติดกล้องวงจรปิดพร้อมระบบปรับอากาศเชื่อมจาก Taxi Drop Lane เข้าสู่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ มีทางเข้าอาคารได้ 2 ช่องทาง คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 2564 ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว จะสามารถลดความแออัดของการจราจรบริเวณชานชาลาผู้โดยสารขาออกชั้น 3 และช่วยให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกและประหยัดเวลาในการเดินทางมากขึ้น 

.วางแผนเติบโตต่อเนื่อง เพื่อความยั่งยืน

“AOT คำนึงถึงการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัท โดยมีแผนพัฒนาโครงการในอนาคต อาทิ โครงการ Certify Hub ศูนย์ตรวจสอบและรับรองคุณภาพสินค้าก่อนส่งออกที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผลักดันโครงการเมืองสนามบินAirport City เพื่อต่อยอดกิจกรรมเชิงพาณิชย์บริเวณรอบสนามบิน เช่น โรงแรม สำนักงาน ศูนย์การค้า เป็นต้น และในส่วนของสนามบินภูมิภาคอีก 4 แห่ง ก็ยังคงมีแผนพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามแผนแม่บทการพัฒนาสนามบินของประเทศ”

นอกจากความมุ่งมั่นพัฒนาด้านธุรกิจแล้ว AOT ยังให้ความสำคัญกับการบริหารงานโดยยึดมั่นหลักธรรมาภิบาลควบคู่กับการดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ภายใต้พันธกิจ “เพื่อนบ้านที่ดีของชุมชน” เพื่อให้ทุกภาคส่วนอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ไปพร้อมกับการก้าวสู่ปีที่ 42 การบริหารสนามบินของ AOT อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป