รถไฟไทยเร่งสร้างบ้านมั่นคง-ให้เช่าที่ดินราคาถูกหลังประชาชนได้รับผลกระทบจากโครงการเมกะโปรเจค

รถไฟไทยเร่งแก้ปัญหาชุมชนในที่ดินของ รฟท. จัดพื้นที่รองรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนารถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูงทั่วไทย  เร่งสร้างบ้านมั่นคง-ให้เช่าที่ดินราคาถูก ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ชุมชน 

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่า การรถไฟฯ อยู่ระหว่างเร่งรัดการแก้ไขปัญหาชุมชนที่อยู่ในที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศ และจัดพื้นที่รองรับชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาโครงการต่างๆ ของ รฟท. ทั้งในพื้นที่ส่วนภูมิภาค และพื้นที่เขตเมือง ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม ที่ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการลงทุนของภาครัฐควบคู่กับการบริการจัดการนำทรัพย์สินที่ดินมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุด  

ทั้งนี้ในส่วนของพื้นที่ส่วนภูมิภาค ประกอบด้วย1.การแก้ปัญหาชุมชนในที่ดินของการรถไฟฯ ในพื้นที่จังหวัดตรัง ซึ่งการรถไฟฯ ให้เช่าพื้นที่บริเวณชุมชนบ่อสีเสียด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เป็นการชั่วคราว ระยะเวลา 3 ปี ในอัตราค่าเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย 2. การแก้ปัญหากรณีชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่– สงขลา ที่จะดำเนินการในปี 67 ซึ่งจะดำเนินการปลูกสร้างบ้านมั่นคง ร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์ชุมชน (พอช.) ต่อไป 

3.การแก้ปัญหากรณีชุมชนได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง นครราชสีมา – หนองคาย  พื้นที่บริเวณที่หยุดรถบ้านพะไล จังหวัดนครราชสีมา รองรับ 8 ชุมชน 166 ครัวเรือน ระยะเวลาการให้เช่า 30 ปี อัตราค่าเช่า 23 บาทต่อตารางเมตร  นอกจากนั้นยังมีประชาชนที่อาศัยบริเวณย่านสถานีรถไฟขอนแก่น หรือพื้นที่เช่าแปลง R5 ซึ่งมีโครงการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน (TOD) ส่งผลกระทบต่อชุมชน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาให้เช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างบ้านมั่นคง ระยะเวลาการเช่า 30 ปี  

นายเอกรัช กล่าวว่า ส่วนพื้นที่เขตเมือง มีผู้ได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการของการรถไฟฯ 2 โครงการ รวมทั้งสิ้น 630 ครัวเรือน 2,075 ราย แบ่งเป็น 1. โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน บริเวณริมบึงมักกะสัน การรถไฟฯ จะจัดพื้นที่ขนาด 4 ไร่ 1 งาน โดยจะร่วมกับการเคหะแห่งชาติ จัดสร้างอาคารที่พักอาศัย และ 2.โครงการพัฒนาย่านพหลโยธิน บริเวณนิคมรถไฟ กม.11 การรถไฟฯ จะจัดพื้นที่ขนาด 6 ไร่ 3 งาน 2 ตารางวา เพื่อรองรับชุมชนพัฒนา กม.11 ชุมชนริมคลองกม.11 และชุมชนบางซื่อกลุ่มออมทรัพย์ รวม 1,076 ราย