

- ไร้เงาอินเดียหลังถอนตัวออกจากวงตั้งแต่ปลายปี62
- พาณิชย์เล็งขอครม.-สภาไฟเขียวลงนามและให้สัตยาบัน
- คาดมีผลใช้กลางปี64เร่งแจงทุกภาคส่วนใช้ประโยชน์
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.63 รัฐมนตรีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) ระหว่างอาเซียน และคู่เจรจาคือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ได้ประชุมทางไกล เพื่อรับทราบความคืบหน้าการทำงานของสมาชิก เพื่อนำไปสู่การลงนามความตกลง โดยยืนยันว่า สมาชิก 15 ประเทศ จะลงนามความตกลงร่วมกันภายในสิ้นปีนี้ตามเป้าหมายของผู้นำ
ส่วนอินเดีย ยังไม่พร้อมลงนามในปีนี้ แต่สมาชิกได้เปิดทางให้อินเดีย กลับมาเจรจาต่อได้ โดยให้ถือว่ายังเป็นสมาชิกเก่า ไม่ต้องเริ่มต้นเจรจาใหม่ หรือนับหนึ่งใหม่ โดยอินเดีย ไม่เข้าร่วมประกาศความสำเร็จของการเจรจาในช่วงการประชุมสุดยอดอาร์เซ็ป ที่ไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อปลายปี 62 เพราะเกรงจะได้รับผลกระทบด้านลบกับประเทศมากกว่าผลดี โดยเฉพาะการขาดดุลการค้ากับสมาชิกบางประเทศ
“เมื่อการขัดเกลาถ้อยคำทางกฎหมายของความตกลงแล้วเสร็จ ทุกประเทศต้องเตรียมการเพื่อการลงนาม และให้สัตยาบรรณ โดยไทย จะขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนการลงนามความตกลง และการให้สัตยาบรรณ จากนั้นจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเห็นชอบการให้สัตยาบรรณอีกครั้ง ส่วนการมีผลบังคับใช้ กำหนดให้ต้องมีสมาชิกอาเซียนเกินกึ่งหนึ่ง และคู่เจรจาเกินกึ่งหนึ่ง ให้สัตยาบรรณ อาร์เซ็ปจึงจะมีผลใช้บังคับ คาดว่า น่าจะมีผลบังคับใช้ประมาณกลางปี 64”
อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ กรมมีแผนที่จะเดินหน้าสร้างความรู้ ความเข้าใจ และการใช้ประโยชน์ของความตกลงให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จะเริ่มตั้งแต่เดือนก.ค.นี้ เป็นต้นไป โดยในเบื้องต้น มีแผนที่จะจัดสัมมนาผ่านทางออนไลน์ในประเด็นสำคัญๆ ในความตกลง เช่น กฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้า ที่จะเป็นกฎที่กำหนดว่า สินค้าที่ผลิตจากวัตถุดิบในประเทศสมาชิกสัดส่วนเท่าไร จึงจะส่งออกโดยได้รับสิทธิประโยชน์จากความตกลง หรือการเปิดตลาดสินค้า การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา โดยจะชี้แจงรายละเอียดของข้อผูกพันในความตกลง เป็นต้น รวมถึงจะลงพื้นที่ไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจด้วยเช่นกัน