“ไอเอ็มเอฟ”มองเศรษฐกิจโลกปีนี้เติบโตดีขึ้น แต่ความท้าทายยังอยู่

“ไอเอ็มเอฟ”มองเศรษฐกิจโลกปีนี้เติบโตดีขึ้น แต่ความท้าทายยังอยู่ กังวลประชากรสูงวัยบนโลกในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่และตลาดกำลังพัฒนา

  • กังวลประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้น
  • เงินเฟ้อทั่วไปของโลกจะอยู่ที่ 6.8% ในปีนี้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( ไอเอ็มเอฟ ) เผยแพร่รายงาน คาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกปีนี้ อยู่ที่ 3.0% ในปีนี้ เพิ่มขึ้น 0.2% จากคาดการณ์เมื่อเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม คาดการณ์สำหรับปี 2567 ยังคงเดิมอยู่ที่ 3.0%

ทั้งนี้ แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลก ระหว่างปี 2566-2567 ยังคงต่ำกว่ามาตรฐานของไอเอ็มเอฟ เนื่องจากอัตราการเติบโตเฉลี่ยระหว่างปี 2543-2562 อยู่ที่ 3.8% เนื่องจากผลผลิตอุตสาหกรรมในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้วที่ยังคงอ่อนตัว และมีแนวโน้มเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกหลายปี

อย่างไรก็ตาม ไอเอ็มเอฟยังคงจับตาด้วยความวิตกกังวล ต่อการที่สัดส่วนประชากรสูงวัยบนโลก โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่และตลาดกำลังพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นจีน ญี่ปุ่น และเยอรมนี ขณะเดียวกัน แม้เทคโนโลยีกำลังมีบทบาทต่อเศรษฐกิจมากขึ้น และแน่นอนว่าจะช่วยผลผลิต แต่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานโลกได้

นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของโลกจะอยู่ที่ 6.8% ในปีนี้ ลดลงจาก 8.7% เมื่อปีที่แล้ว และคาดการณ์ว่าจะลดลงอีกสู่ 5.2% ในปี 2567 ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งจะไม่รวมสินค้ากลุ่มอาหารสดและพลังงาน มีแนวโน้มลดลงจาก 6.5% เมื่อปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 6.3% ในปีนี้ และลดลงอีกเหลือ 4.7% ในปี 2567

เมื่อวิเคราะห์แยกรายประเทศ ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( จีดีพี ) ของสหรัฐ ประเทศซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก จะเติบโต 1.8% ในปีนี้ เนื่องจากตลาดแรงงานภายในยังแข็งแกร่ง

ส่วนจีดีพีของจีน ประเทศซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก มีแนวโน้มขยายตัว 5.2% ในปีนี้ และ 4.5% ในปีหน้า กระนั้น ไอเอ็มเอฟเตือนว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยสถานการณ์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังน่าเป็นห่วง.