

- IATA/ไออาต้า ชี้อุตสาหกรรมการบินทั่วโลกส่งสัญญาณดีมาตั้งแต่ พ.ย.65 ถึงปัจจุบัน
- เปิด 3 ปัจจัยบวก “รายได้” RPK ผู้โดยสารต่อกิโลเมตรแตะ 41.3% “เที่ยวบินระหว่างประเทศ” พุ่ง 85.2 % เอเชียแปซิฟิกคึกคักมากสุด
- ส่วน “เที่ยวบินในประเทศ” ทุกทวีปขยายตัว 77.7 % แนะรัฐบาลทุกประเทศเลิกนำโควิดมาเป็นอุปสรรคการเดินทาง
สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ IATA-International Air Transport Association รายงานว่าขณะนี้ได้สรุปภาพรวมผู้โดยสารทางเครื่องบินเริ่มฟื้นตัวอย่างรวดเร็วตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 ซึ่งจะส่งผลบวกต่อเนื่องมาถึงปี 2566 ดังนั้นรัฐบาลอีกหลายประเทศควรจะหันมาพิจารณาให้ประชาชนดำรงชีวิตอยู่กับโควิด-19 โดยไม่นำมาเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางอีกต่อไป
เพราะขณะนี้ทั้งนักระบาดวิทยา ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งยุโรป และหน่วยงานอื่น ๆ ต่างก็กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า การนำชุดตรวจกลับมาใช้ใหม่กับชาวจีนที่เดินทางต่างประเทศสามารถยับยั้งไวรัสที่มีอยู่แล้วทั่วโลกได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งจีนเองก็ยอมผ่อนคลายมาตรการนโยบายด้วยการประนีประนอมทำตามข้อกำหนดเรื่อง การทดสอบผลตรวจหาเชื้อโควิดให้ประชาชนก่อนออกเดินทางด้วยเช่นกัน

เพื่อขานรับอุตสาหกรรมการบินทั่วโลกเริ่มมีสัญญาณดีขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ “เดือนพฤศจิกายน 2565” ซึ่งสามารถประเมินผลได้จาก 3 เรื่อง ประกอบด้วย
เรื่องที่ 1 ปริมาณการจราจรทั้งหมด “สร้างรายได้” เพิ่มขึ้น 41.3% โดยวัดจากผู้โดยสารต่อกิโลเมตรหรือ RPK กับปริมาณจราจรทั่วโลกในช่วงเดียวกันกับเดือนพฤศจิกายนปีก่อน
เรื่องที่ 2 ปริมาณการจราจรเที่ยวบินระหว่างประเทศ เพิ่มขึ้น 85.2% ในเอเชียแปซิฟิกรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งมากที่สุด ส่วนทุกภูมิภาคอื่น ๆ มีค่าผู้โดยสารต่อกิโลเมตร RPK ระหว่างประเทศอยู่ในระดับ 73.7%
จากการประเมินสถานการณ์เดือนพฤศจิกายน 2565 “ตลาดผู้โดยสารระหว่างประเทศ” สายการบินใน “เอเชียแปซิฟิก” มีอัตราการเดินทางเพิ่มขึ้น 373.9% ทำสถิติแข็งแกร่งที่สุดเมื่อเทียบเป็นรายปีในภูมิภาคอื่นๆ และมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 159.2% และอัตราบรรทุกผู้โดยสาร เพิ่มขึ้นเป็น 79.2%
สายการบินใน “ตะวันออกกลาง” มีปริมาณการจราจรเพิ่มขึ้น 84.6% กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 45.4% และอัตราบรรทุกผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 77.7%
สายการบินใน “ยุโรป” มีปริมาณการจราจรเพิ่มขึ้น 45.3% กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 25.1% และอัตราบรรทุกผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 83.6%
สายการบินใน “ละตินอเมริกา” มีปริมาณการจราจรเพิ่มขึ้น 59.2% กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 55.6% และอัตราบรรทุกผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 82.9%

สายการบินใน “อเมริกาเหนือ” มีปริมาณการจราจรเพิ่มขึ้น 69.9% ความจุเพิ่มขึ้น 45.5% และโหลดแฟกเตอร์เพิ่มขึ้น 11.6 เปอร์เซ็นต์เป็น 81.0%
สายการบินใน “แอฟริกัน” มีปริมาณการจราจรเพิ่มขึ้น 83.5% กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 48.4% และอัตราบรรทุกผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 74.3% ซึ่งต่ำที่สุดในภูมิภาคอื่นๆ
เรื่องที่ 3 ปริมาณการจราจรภายในประเทศ ภาพรวมรวมยังคงขยายตัวได้ถึง 77.7 % เพิ่มขึ้นจากพฤศจิกายนช่วงเดียวกันกับปีก่อน 3.4% ซึ่งยังไม่ได้รวมถึงในสาธารณรัฐประชาชนจีนยังมีข้อจำกัดการเดินทางที่ส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ทั่วโลก
ผลจากทั้ง 3 เรื่องในเดือนพฤศจิกายน 2565 ตอกย้ำว่าผู้บริโภคมีอิสระในการเดินทางเครื่องบินอย่างเต็มที่ และจะเป็นผลดีมากขึ้นหากทุกประเทศทั่วโลกจะเปิดโอกาสให้นักเดินทางจากจีนเข้าออกได้สะดวกมากขึ้นอีกครั้งตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 เป็นต้นไป
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza,www.facebook.com/penroongyaisamsaen