พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยถึงการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎรว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าตำรวจมีคณะทำงานช่วยกันพิจารณาความผิดต่างๆ โดยมีการถอดเทปคำปราศรัย ซึ่งส่วนใดมีความผิดชัดเจนก็ร้องทุกข์กล่าวโทษ และทยอยออกหมายเรียกให้ผู้กระทำผิดมารับทราบข้อกล่าวหาได้ทันที
ทั้งนี้ปัจจุบันมีคดีที่เกี่ยวกับการชุมนุม ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจนครบาล กว่า 200 คดี เป็นความผิดข้อหาต่างๆ ตามพฤติการณ์ เช่น มาตรา 215 วรรค 1 , มาตรา 215 วรรค 2, มาตรา 116, มาตรา 112, พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ,พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ, พ.ร.บ.จราจรทางบก และข้อหาอื่นๆ
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า จำนวนของผู้กระทำผิด ไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะพฤติกรรมของผู้กระทำผิด ทำผิดอย่างไร ต้องได้รับผลอย่างนั้น อย่างที่เคยเตือนแต่แรกเรื่องการชุมนุม อย่าคิดว่าจะไม่โดนดำเนินคดี เพราะขณะนี้ความผิดต่างๆ มีพยานหลักฐานปรากฎชัดเจน จนดิ้นไม่หลุด และการกระทำใดเข้าองค์ประกอบความผิดมาตราใด ทางตำรวจก็จะแจ้งข้อหาตามความผิดมาตรานั้น
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหา มาตรา 112 จากการชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 34 คน มีทั้งการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม และพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา โดยผู้กระทำผิดส่วนใหญ่เป็นแกนนำที่ขึ้นปราศรัยเวทีต่างๆ และผู้ชุมนุมรายอื่นๆ ที่ร่วมปราศรัยมีเนื้อหาที่เข้าข่ายการกระทำความผิด
