ไม่อยากให้ด่วนสรุป… “ก้าวไกล” วอน สตช.ลงพื้นที่ดูแลคดี เหตุลูกพรรคมหาสารคามถูกฟันสาหัส ก่อนวันเลือกตั้ง อบต. หวั่นทำบรรยากาศการเมืองไม่ดี

วันนี้ (3 ธ.ค.64) นายชัยธวัช​ ตุลาธน​ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงกรณี​ที่ นายอดิศักดิ์​ สมบัติคำ​ (จ่าตา) ว่าที่ผู้สมัคร​ ส.ส.มหาสารคาม​ พรรคก้าวไกล ถูกทำร้ายอาการสาหัส​ บริเวณคอ เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันก่อนวันเลือกตั้ง อบต.เพียง 1 วัน เป็นเหตุให้เกิดบาดแผลฉกรรจ์ และต้องเย็บถึง 120 เข็มว่า ขณะนี้นายอดิศักดิ์ ปลอดภัยแล้ว ส่วนคดีความเป็นความรับผิดชอบของ สภ.นาเชือก จ.มหาสารคาม 

ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ พรรคก้าวไกลทราบว่า ผู้ก่อเหตุถูกควบคุมตัวแล้ว และให้การรับสารภาพ แต่อ้างว่าก่อเหตุเพราะมีความโกรธแค้นส่วนตัว นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าผู้ก่อเหตุมีอาการไม่ปกติทางจิต

“พรรคก้าวไกลมีความเห็นว่า เรื่องนี้มีความร้ายแรง และก่อเหตุในตอนเช้าก่อนวันเลือกตั้ง อบต. จึงอยากให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เข้าไปกำกับดูแลเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เพื่อให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนคดีนี้อย่างรวดเร็วตรงไปตรงมา และอยากให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของนายอดิศักดิ์ อย่างดีที่สุด ไม่อยากเห็นเจ้าหน้าที่ด่วนสรุปว่าคดีความนี้ เหตุเกิดจากความขัดแย้ง ตามที่ผู้ก่อเหตุกล่าวอ้าง หรือเพราะเป็นบุคคลที่มีปัญหาทางจิตเพราะไม่สอดคล้องกับพฤติการและข้อเท็จจริง เนื่องจากผู้ก่อเหตุไม่ได้รู้จักนายอดิศักดิ์ เป็นการส่วนตัว หรือแม้จะอยู่อาศัยในพื้นที่เดียวกัน หรือใกล้เคียงกัน ดังนั้น จึงไม่ได้มีความขัดแย้งอย่างที่ผู้ก่อเหตุอ้างแต่อย่างใด และพบว่ามีการเตรียมการมาอย่างดีในการกระทำการ และเลือกช่วงเวลาที่ปลอดคน และเข้ามาฟันนายอดิศักดิ์เพื่อหมายเอาชีวิตจึงไม่ใช่ลักษณะของผู้ป่วยทางจิต” เลขาฯ ก้าวไกล กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวด้วยว่า สำหรับนายอดิศักดิ์ เป็นคนที่มีบทบาทในพื้นที่ในการตรวจสอบโครงการของรัฐที่ไม่โปร่งใส รวมถึงการตรวจสอบปัญหาในพื้นที่ที่ร้ายแรง โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด ล่าสุดได้ยื่นต่อกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ที่อาจจะใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบในคดียาเสพติด ที่พบว่าหลายคดีไม่มีความคืบหน้า และอาจจะใช้คดีความยาเสพติดไปเรียกรับเงินจากญาติของผู้ที่ถูกจับกุมยาเสพติด ดังนั้น พรรคก้าวไกลเป็นห่วง ไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ด่วนสรุป หากคดีความเหล่านี้ไม่ถูกสืบสวนสอบสวนอย่างตรงไปตรงมาและเป็นธรรม ย่อมไม่ส่งผลดีต่อบรรยากาศทางการเมืองที่กำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้