- ด้านเอกชนลุ้นเฮือกสุดท้ายค่าไฟใหม่
- จี้ บอร์ด กกพ. ใช้ต้นทุนจริง
- กดค่าไฟลงเหลือ 4.27 บาท
เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2566 ที่สโมสรราชพฤกษ์ (นอร์ทปาร์ค) กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 เม.ย.นี้ สั่งด่วนให้กระทรวงพลังงานชี้แจงประชาชน เรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับค่าไฟทั้งหมด หลังจากประชาชนได้ออกมาร้องเรียนประเด็นค่าไฟในเดือน เม.ย.อยู่ในระดับสูง ทั้งนี้จากเดิมรัฐบาลดูแลประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วย ซึ่งกำลังดูอยู่จะดูแลกลุ่มผู้ใช้ไฟไม่เกิน 500 หน่วยด้วยได้หรือไม่ วันนี้ทุกคนมองว่าพลังงานมันแพง ต้องไปมองว่าแพงจากอะไร ไม่ใช่ตนไม่เดือดร้อน ทุกอย่างที่ประชาชนเดือดร้อนตนเดือดร้อนหมด ตนร้อนใจเพราะทำหน้าที่นายกฯ ดูแลคนทั้ง 70 ล้านคนให้ทุกคนพอใจ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของเหตุผลและข้อเท็จจริง วันนี้ก็หาทางปรับแก้และชี้แจงกันอยู่ ต้องไปดูว่าจะทำอะไรได้บ้างเรื่องค่าเอฟที เรื่องนี้กำลังสอบถามไปที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คาดว่าใช้เงิน 8,000 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นทางกระทรวงพลังงาน ได้เตรียมพร้อมข้อมูลรายละเอียดประเด็นค่าไฟไว้หมดแล้ว คาดว่าจะมีการแถลงด่วนในที่ 24 เม.ย.นี้ และวันเดียวกันทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เตรียมประชุมบอร์ดวาระพิเศษ ประเด็นการพิจารณาค่าไฟฟ้างวดใหม่ พ.ค.-ส.ค.อีกครั้ง หลังจากคณะอนุกรรมการการกำกับดูแลการปรับอัตราค่าบริการไฟฟ้า เห็นชอบตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เสนอขอรับภาระยืดหนี้การชำระค่าไฟฟ้า วงเงินประมาณ 1.3 แสนล้านบาท แทนประชาชนจาก 5 งวด หรือ 20 เดือน งวดละ 27,000 ล้านบาท เป็น 6 งวด หรือ 24 เดือน งวดละ 22,000 ล้านบาท ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยงวดที่ 2 ของปีนี้ (พ.ค.-ส.ค. 66) ลดลง 7 สตางค์ต่อหน่วย จากเดิม 4.77 บาทต่อหน่วย เป็น 4.70 บาทต่อหน่วย หลังจากนี้บอร์ด กกพ. จะพิจารณาอนุมัติแล้วตามขั้นตอน กกพ.จะมีมติเปิดรับฟังความเห็น 5-7 วัน ก่อนกลับมาเสนอบอร์ด กกพ. พิจารณาเคาะราคาเพื่อประกาศใช้ต่อไป ยืนยันว่าจะทันบิลค่าไฟรอบเดือน พ.ค.แน่นอน เพราะบิลค่าไฟจะเริ่มออกตั้งแต่ 10 พ.ค.เป็นต้นไป
ด้านนายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ ไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) วาระพิเศษ เพื่อพิจารณาค่าไฟฟ้างวดใหม่ พ.ค.- ส.ค. หรืองวดที่ 2 ปี 66 ในวันที่ 24 เม.ย.นี้ นับเป็นโค้งสุดท้ายของการพิจารณาค่าไฟงวดใหม่นี้ จากเดิมเป็นการนำผลการประชุมของคณะอนุกรรมการการกำกับดูแลการปรับอัตราค่าบริการไฟฟ้า ที่เห็นชอบตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เสนอขอรับภาระยืดหนี้การชำระค่าไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้ค่าไฟลดลง 7 สตางค์ จากหน่วยละ 4.77 บาท เป็นหน่วยละ 4.70 บาท มองว่ายังไม่สะท้อนข้อเท็จจริงมากนัก
ทั้งนี้ภาคเอกชนยังคาดหวังให้บอร์ด กกพ. นำค่าก๊าซธรรมชาติเหลว หรือแอลเอ็นจี ให้สะท้อนข้อเท็จจริงจากเดิม คำนวณที่ราคานำเข้า 20 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู ซึ่งเป็นราคาเฉลี่ยเดือน ม.ค. 66 อยากให้นำราคาตลาดปัจจุบัน ซึ่งต่ำกว่า 13 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียูแล้ว นำมาคำนวณแทน จะทำให้ค่าไฟงวดใหม่สะท้อนราคาปัจจุบันมากที่สุด จะปรับลดลงอีก 9% หรือปรับลดลงจาก 4.77 บาท เป็น 4.34 บาท และหากรวมกับตัวเลขยืดหนี้ของกฟผ.ที่ทำให้ค่าไฟลดลงอีก 7 สตางค์ เท่ากับว่าค่าไฟงวดที่ 2 ของปีนี้ที่ควรจะเหลือหน่วยละ 4.27 บาท เป็นตัวเลขที่ดูแล้วสมเหตุสมผลสอดคล้องกับต้นทุนปัจจุบัน นอกจากนี้ต้องการให้การพิจารณางวดค่าไฟของบอร์ด กกพ. จากเดิมพิจารณาทุก 4 เดือน แต่ขณะนี้อยู่ในช่วงราคาพลังงานผันผวน มองว่าควรร่นระยะเวลาลงมาเหลือ 2-3 เดือนชั่วคราว เพื่อให้ข้อมูลต้นทุนต่าง ๆ ใกล้เคียงกับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด.
