

- พรรคการเมือง2ลุงมีเสียงรวมกันไม่ถึง80เสียงพรรคที่เหลือมีรวมกันเกิน376เสียงสามารถเลือกนายกฯได้ไม่ต้องสนเสียงส.ว.
- ชี้มีความเป็นไปได้สูง“พิธา”จะดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาและขอโควต้ากรรมาธิการสำคัญในสภาเพื่อควบคุมการบริหารประเทศ
- เผยความคิดที่จะทำให้การเลือกตั้งโมฆะหรือตั้งรัฐบาลช้างน้อย–ยุบพรรคน่าจะต้องเลิกล้มเพราะผลคะแนนจากประชาชนชัด
วันนี้ (15 พ.ค.66) นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมายอิสระ และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก : Paisal Puechmongkol โดยแสดงความคิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2566 มีเนื้อหาดังนี้…
ใครชนะ–ปราชัยและใครเป็นรัฐบาลใหม่
1 พรรคการเมือง ซ้ายจัดและขวาจัดพ่ายแพ้ยับเยิน!!!!
พรรคโหนเจ้า–อวดอ้าง–แอบอ้างเจ้า 2 พรรค พ่ายแพ้ยับเยิน ได้เสียงรวมกัน ไม่ถึง 40 เสียง
ฉันทามติของประชาชน คือปิดฉากลุง
io ใหญ่ 3 ขบวน ที่สร้างความแตกแยกในแผ่นดิน ต้องปิดฉากและอาจถูกตรวจสอบต่อไป
พรรค ที่มุ่งปฏิรูปสถาบัน และทำตัวเป็นปากเสียงของนักล่าอาณานิคม พ่ายแพ้ยับเยิน ได้เสียงแค่ 150 เสียง ในขณะที่พรรคการเมืองทั้งหมด ที่ไม่เอาด้วยในเรื่องนี้มีคะแนนเสียงรวมกัน 350 เสียง
2 ฉันทามติของประชาชน ปิดสวิตช์ สว. พรรคการเมืองของ 2 ลุง มีเสียงรวมกันไม่ถึง 80 เสียง พรรคที่เหลือทั้งหมดมีเสียงรวมกันเกิน 376 เสียง สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้โดยไม่ต้องอาศัยเสียง สว.
ขณะนี้ สว. ที่มีพื้นฐานจากบ้านใหญ่ และอย่างน้อยอีก 2 สาย จะเทคะแนนเสียงให้แก่พรรคการเมือง ที่มีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเคารพต่อฉันทามติของปวงชนชาวไทย
3 รทสช.พ่ายแพ้เลือกตั้งในเขตทหารเกือบทุกหน่วย หมายความว่า
–กองทัพเป็นกลางทางการเมือง ไม่มีการสั่งการให้สนับสนุนลุง เหมือนที่มีการปล่อยข่าวลวงก่อนหน้านั้น
–กองทัพ และผู้จงรักภักดีต่อสถาบัน ไม่สนับสนุนลุง นั่นคือลุงแพ้เลือกตั้ง แต่กองทัพและผู้จงรักภักดีต่อสถาบันไม่ได้ร่วมแพ้เลือกตั้งกับลุงด้วย
–ฉันทามมติของประชาชนทั่วประเทศไม่เอาพรรคการเมือง ที่มีจุดยืนปฏิรูปสถาบันอย่างชัดเจนที่สุด ซึ่งพรรคนั้นจะต้องยอมรับฉันทามตินี้
4 รัฐบาลหลังเลือกตั้งจะเป็นรัฐบาลผสม!!!!
–พรรคก้าวไกลได้เสียงมากที่สุด มีสิทธิ์จัดตั้งรัฐบาลได้ก่อน แต่เพราะประกาศจุดยืน “มีเราไม่มีลุง” และเป็นปรปักษ์กับพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ดังนั้นจึงไม่สามารถรวบรวมคะแนนเสียงได้ 376 เสียง นายพิธา จึงยังเป็นนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ได้!!!
จึงมีความเป็นไปได้อย่างสูงว่า นายพิธาจะดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภา และขอโควต้ากรรมาธิการสำคัญในสภา เพื่อควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน
แต่ประเทศมหาอำนาจอาจบงการจัดการให้ พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย และพรรคพันธมิตรของเพื่อไทย สนับสนุนให้ นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีก็ได้!!!
จะต้องจับตาการเคลื่อนไหวแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทยของประเทศนักล่าอาณานิคมอย่างใกล้ชิดที่สุด!!!
–ถ้าพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ก็เป็นวาระของพรรคเพื่อไทย!!!
พันธมิตรที่เตรียมกันไว้เดิมคือ เพื่อไทย ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ ชาติไทยพัฒนา ประชาชาติ เสรีรวมไทย ไทยสร้างไทย ก็จะเป็นรัฐบาล โดยนายสุชาติ ตันเจริญ จะดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภา คุณเศรษฐา หรือคุณอุ๊งอิ้ง หรือลุงป้อมจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เนื่องจาก พรรคพลังประชารัฐได้เสียงน้อยมาก ดังนั้น ลุงป้อมอาจยอมเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหม โดยจะมี สว. จำนวนหนึ่งให้การสนับสนุน
5 หัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ลาออกจากตำแหน่งแล้ว และเลขาธิการพรรค คงจะลาออกตาม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะน่าจะกลับมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และอาจถูกเชิญให้ดำรงตำแหน่งรองนายกและรัฐมนตรีต่างประเทศ
จับตาพลเอกประยุทธ์อาจจะลาออกจากการรักษาการ เพื่อแสดงความเคารพต่อฉันทามติของประชาชน ซึ่งลุงป้อมจะรักษาการนายกรัฐมนตรีต่อไป และตั้งคณะกรรมการปรองดองแห่งชาติขึ้น เพื่อฟื้นฟูความสามัคคีภายในชาติ ซึ่งจะเป็นการปรองดองให้กับพลเอกประยุทธ์ด้วย!!!!
และเมื่อพลเอกประยุทธ์ ไม่ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จึงเป็นไปได้ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะไปรวมกับพรรคพลังประชารัฐหรือพรรคประชาธิปัตย์
6ความคิดที่จะทำให้การเลือกตั้งโมฆะหรือตั้งรัฐบาลช้างน้อยหรือยุบพรรคน่าจะต้องเลิกล้มไปตามฉันทามติของประชาชนและเพื่อความปลอดภัยของชาติบ้านเมืองและความสันติสุขของประชาชนต่อไป