“ไทย-ญี่ปุ่น” ย้ำความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างกัน เดินหน้า “การร่วมสร้างสรรค์” เพื่อการลงทุนในอนาคต



  • เพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ-สังคม ที่ยั่งยืนของทั้ง 2 ประเทศ และภูมิภาคเอเชียโดยรวม
  • ย้ำไทยในฐานะประธานเอเปคปี 65 พร้อมร่วมมือกับญี่ปุ่นในประเด็นต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน
  • พร้อมเสริมความร่วมมือด้านพลังงาน โดยเปลี่ยนผ่านการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เป็นการใช้พลังงานสะอาด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 ม.ค.65) เวลา 09.30 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายฮากิอูดะ โคอิจิ (Mr. HAGIUDA Koichi) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (Ministry of Economy, Trade and Industry of Japan: METI) เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญของการสนทนา ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับ ยินดีที่รัฐมนตรีฮากิอูดะฯ ได้เลือกไทยเป็นประเทศแรกๆ ในการเยือนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยถือเป็นการเยือนไทยครั้งแรก และเป็นการเยือนโดยรัฐมนตรี METI ครั้งแรกในรอบ 5 ปี เชื่อมั่นว่าจะช่วยกระชับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นในด้านเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น 

ทั้งนี้ ไทยในฐานะประธานเอเปคปี 2565 พร้อมร่วมมือกับญี่ปุ่นในประเด็นต่าง ๆ ที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันภายใต้กรอบเอเปค โดยเฉพาะโมเดลเศรษฐกิจ BCG ของไทยกับยุทธศาสตร์การเติบโตสีเขียวของญี่ปุ่น ทั้งในระดับทวิภาคีและระดับพหุภาคีให้เกิดผลลัพธ์เป็นรูปธรรม

ด้านรัฐมนตรีฮากิอูดะ ได้กล่าวยินดีที่ได้เข้าพบในวันนี้ พร้อมแสดงความมุ่งมั่นของญี่ปุ่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกับไทย โดยเฉพาะความร่วมมือที่เกี่ยวข้องกับโมเดล BCG การลงทุนและการพัฒนาอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ไทยและญี่ปุ่นถือเป็นหุ้นส่วนการค้าการลงทุนระหว่างกันที่สำคัญ อีกทั้งมีความร่วมมือที่แน่นแฟ้นในทุกภาคส่วน โดยรัฐมนตรีฮากิอูดะฯ ยังได้กล่าวยืนยันว่า ญี่ปุ่นพร้อมสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคของไทยด้วย

โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นความร่วมมือที่สำคัญดังนี้

ด้านการลงทุนและการพัฒนาอุตสาหกรรม นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณภาคเอกชนญี่ปุ่นที่เชื่อมั่นในศักยภาพของเศรษฐกิจไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากการที่ญี่ปุ่นเป็นนักลงทุนต่างชาติอันดับ 1 ของไทยมาหลายทศวรรษและเป็นคู่ค้าสำคัญของไทย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวยืนยันถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยที่จะส่งเสริมสภาพแวดล้อมทางธุรกิจให้เอื้อต่อการลงทุนของญี่ปุ่นในไทย ด้านรัฐมนตรีฮากิอูดะฯ กล่าวว่าด้วยข้อริเริ่ม Asia-Japan Investing for the Future (AJIF) ของญี่ปุ่น ซึ่งญี่ปุ่นได้จัดให้ไทยเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายสำคัญของข้อริเริ่มดังกล่าว การร่วมสร้างสรรค์ (co-creation) ระหว่างภาคเอกชนไทยกับญี่ปุ่นจะนำไปสู่การลงทุนสำหรับอนาคต จะเป็นประโยชน์ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนของทั้งสองประเทศและภูมิภาคเอเชียโดยรวม 

ด้านอุตสาหกรรมและพลังงาน นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณกระทรวง METI ที่ร่วมมือกับไทยในการยกระดับอุตสาหกรรมของไทยโดยใช้ระบบดิจิทัล ระบบอัตโนมัติ AI IoT และ 5G ซึ่งไทยและญี่ปุ่นพร้อมที่จะสานต่อความร่วมมือในด้านนี้เพื่อบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนด้านพลังงาน และการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อไป โอกาสนี้นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวขอบคุณญี่ปุ่นที่ได้มีส่วนช่วยในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในไทย ซึ่งจะช่วยสร้างบุคลากรที่มีทักษะเฉพาะที่สามารถตอบสนองต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนการลงทุนของญี่ปุ่นในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทยในระยะยาวอีกด้วย

ทั้งนี้ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ ณ ห้องสีม่วง นายกรัฐมนตรีได้ร่วมเป็นประธานในการลงนามบันทึกความร่วมมือว่าด้วยการเป็นหุ้นส่วนทางพลังงานระหว่างกระทรวงพลังงานกับกระทรวง METI (Memorandum of Cooperation on the Realization of Energy Partnership between the Government of the Kingdom of Thailand and the Government of Japan) โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย และนายฮากิอูดะ โคอิจิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น เป็นผู้ลงนามฝ่ายญี่ปุ่น 

อย่างไรก็ตาม การลงนามครั้งนี้ มีเนื้อหาเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างไทยและญี่ปุ่น โดยให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของโลกจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นการใช้พลังงานสะอาด ซึ่งจะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เสริมสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุน รวมทั้งจะเกิดความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้าน Smart Energy แห่งอนาคตในรูปแบบต่าง ๆ