ไทยเล็งใช้ WTM 2022 ประกาศพลิกโฉมท่องเที่ยว 3 โปรเจกต์ เปิดยิ่งใหญ่ “Amazing Thailand Always Warm” ดึงตลาดโลก



  • “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ เล็งนำทีม บอร์ด ททท.เอกชน
  • ใช้มหกรรมการค้าติดอันดับโลก WTM : World Travel Mart 2022” อังกฤษ 7-9 พ.ย.65
  • ประกาศพลิกโฉมท่องเที่ยวประเทศไทย 3 เรื่องใหญ่
  • “เปิดตัว Amazing Thailand Always Warm” เที่ยวเมืองไทยอบอุ่นทุกเวลา บูมคอนเทนท์
  • Meaningfull Travel เที่ยวเมืองไทยได้ครบทุกมิติ
  • และ “Re Union” จุดนัดพบมิตรภาพของเพื่อนทั่วโลก

นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมที่จะนำคณะกรรมการ ททท.พร้อมผู้บริหาร และผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยรุกเข้าร่วมงานใหญ่ระดับโลก WTM : World Travel Mart 2022 ระหว่าง 7-9 พฤศจิกายน 2565 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นงานจับคู่เจรจาซื้อขายการท่องเที่ยวรายใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก ประเทศไทยภายใต้การนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพร้อมจะประกาศพลิกโฉมจุดขายสำคัญการท่องเที่ยวไทย 3 เรื่องหลัก ประกอบด้วย

เรื่องแรก ประกาศ Visit Thailand Year 2023 ต่อเนื่องปีที่ 2 โดยใช้คีย์หลักการสื่อสารด้วยคอนเซ็ปต์ “Amazing Thailand Always Warm” อันหมายถึง นักท่องเที่ยวทั่วโลกเลือกมาเมืองไทยเมื่อไรก็จะได้รับความอบอุ่นเสมอWarm ทั้งเรื่องอัธยาศรัยไมตรี การต้อนรับตั้งแต่สนามบิน บริการ และอื่น ๆ ที่จะได้รับครบทุกมิติตลอดทุกการเดินทาง

พิพัฒน์ รัชกิจประการ

เรื่องที่สอง ประกาศขับเคลื่อนคอนเทนท์ Meaningfull Travel ตอบโจทย์ความคุ้มค่าทุกการเดินทางมาเที่ยวเมืองไทย จะได้พบกับความสุขทุกอย่าง มีกิจกรรมสนุกทำ ผนวกเข้ากับส่วนอื่น อยู่ภายในการท่องเที่ยวทุกประเภท

เรื่องที่ 3 จุดประกายเพิ่มตลาด Re-Union ชวนเพื่อนเก่ากลับมาฉลองมิตรภาพใหม่อีกครั้ง นัดรวมกลุ่มกันเดินทางมาเมืองไทย เช่น ดำน้ำเก็บขยะในทะเล หรือจะเป็นกิจกรรมกลุ่มเพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม CSR อีกหลากหลายอย่างซึ่งเป็นเทรนด์นิยมของโลก

นายศิริปกรณ์ กล่าวถึงว่า ททท.เตรียมปรับกลยุทธ์ใหม่เรื่องการคัดเลือก “ผู้ประกอบการท่องเที่ยวต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง : Supply Change” ตอนนี้ประเด็นหลักต้องเร่งพัฒนามาตรฐานบุคลากรบริการกลับเข้าสู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวต้องอบรมทักษะกันใหม่อีกครั้งเพราะไทยและทั่วโลกกำลังขาดแคลนอย่างหนัก สำคัญสุดจะต้องดูตัวเลขพฤติกรรมตลาดด้วย การเปลี่ยนแปลงใหญ่สุดที่ซัพพลายเชนจะต้องปรับคือ “การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” เป็น A Must หัวใจหลักต้องลงมือทำทันทีไม่ใช่แค่เทรนด์เหมือนในอดีตซึ่งจะทำหรือไม่ทำก็ได้อีกต่อไปแล้ว

ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร

ขณะนี้พฤติกรรมนักท่องเที่ยวหรือดีมานต์ไซซ์ในตลาดระยะไกลข้ามทวีป เริ่มจากยุโรป นักท่องเที่ยวหันมาให้ความสำคัญมากเป็นอันดับต้น ๆ เรื่องการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ททท.จึงต้องปรับกลยุทธ์เริ่มจากการคัดผู้ประกอบการเข้าร่วมขายในงาน WTM 2022 ต้องมีคุณสมบัติผ่านตามเช็คลิสต์ 3-5 ข้อ จึงจะได้รับโอกาสเข้าร่วมงาน จากทั้งหมดตามมาตรฐานสากลมีประมาณกว่า 10 ข้อ คือ 1.ต้องเป็นสถานประกอบการที่ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA Plus 2.การมีส่วนร่วมใช้ผลิตภัณฑ์หรือวัตถุดิบท้องถิ่นมาใช้ในสถานประกอบการ 3.ได้รับรางวัลด้านสิ่งแวดล้อม หรือความยั่งยืน4.มีนโยบายลดละเลิกใช้พลาสติก 5.อื่น ๆ จากนั้นจะยกระดับเพิ่มเช็คลิสต์อย่างเข้มข้นในปีต่อไป

นอกจากนี้ ททท.ยังพร้อมเดินหน้าขยายตลาดกลุ่มประเทศใหม่ตามนโยบาย รมว.พิพัฒน์ รัชกิจประการ ในประเทศแถบรอยต่อเอเชีย-ยุโรป เบื้องต้น 3 พื้นที่หลัก พื้นที่แรก พประเทศชื่อลงท้ายด้วยสถาน เช่น คาซัคสถาน และอีกหลายประเทศ ตอนนี้ แอร์อัสตรานาเริ่มกลับมาบินบ้างแล้ว ซึ่งจะทำให้ประเทศรอบข้างเข้ามาภูเก็ตและเมืองไทยได้ด้วย พื้นที่ 2 อิสราเอล ได้รับความร่วมมือจากสายการบินแอลอัลแอร์ไลน์ส เริ่มบินตั้งแต่ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ มาจนถึงทุกวันนี้ พื้นที่ 3 ซาอุดิอาระเบีย กำลังมาแรงมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าตามเป้าหมายที่จะส่งเสริมให้มาเที่ยวเมืองไทยได้ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์หรือ Weekend Destination เพิ่มรายได้อีกมหาศาลกระจายสู่จังหวัดต่าง ๆ ทั่วไทย

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza,www.facebook.com/penroongyaisamsaen