

วันที่ 22 มีนาคม 2564 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) แถลงข่าวหลังเกิดเหตุการณ์การชุมนุมบริเวณท้องสนาม ของกลุ่มรีเด็ม (Redem) เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชุมนุม “ม็อบ 20 มีนา” เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทุกคน โดยในจำนวนผู้บาดเจ็บทั้งหมด มีทั้งข้าราชการตำรวจ ผู้ชุมนุม ตลอดจนสื่อมวลชนที่ไปทำหน้าที่รายงานข่าว นำมาซึ่งความปลาบปลื้มปิติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และคนไข้ อย่างหาที่สุดมิได้
พล.ต.ต.ปิยะ ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุความรุนแรง พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผู้กำกับ สน.ชนะสงคราม ได้มีการประกาศแจ้งเตือนแล้วว่า การกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และให้ยุติการชุมนุม แต่ผู้ชุมนุมกลับไม่เชื่อฟัง และฝ่าฝืนและเดินทางไปบริเวณหน้าศาลฎีกา และเข้าสู่บริเวณท้องสนามหลวง
เมื่อถามว่า ตำรวจมีการแจ้งเตือนผู้สื่อข่าวที่ได้รับลูกหลงจากกระสุนยางหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ทางยุทธวิธีแจ้งให้เตรียม ผู้สื่อข่าวคงจะทราบและก้มลง ซึ่งตามหลักสากล กระสุนยางจะยิงในพื้นที่ส่วนหนาของร่างกาย ระดับอกลงมาถึงบริเวณส่วนล่างของร่างกาย ซึ่งกรณีนี้นักข่าวคงได้ยินคำว่าเตรียม เลยก้มลงหลบ เป็นเหตุให้ศีรษะต่ำลงมา กระสุนยางจึงพลาดไปโดนศีรษะ
เมื่อถามว่า เวลานั้นเหตุใดตำรวจไม่สามารถแยะแยะได้ว่าใครเป็นผู้สื่อข่าว พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เนื่องจากตั้งแต่แยกคอกวัว จนถึงสะพานวันชาติชุนมุลมาก และกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบก็ยังใช้รถจักรยานยนต์และเดินเท้าด้วย
ส่วนสาเหตุที่ตำรวจใช้กระสุนยาง เกิดจากกลุ่มผู้ชุมนุมก่อความรุนแรงหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า บริเวณแยกคอกวัวมีการใช้รถจักรยานยนต์ พร้อมอาวุธต่าง ๆ จุดระเบิดเพลิง เผาทรัพย์สินของทางราชการ ซึ่งเป็นอันตราย หากตำรวจไม่ใช้การปฏิบัติแบบฉับพลัน อาจเกิดอันตรายต่อเจ้าหน้าที่
กรณีที่ไปโดนนักข่าว โอกาสพลาดอาจจะเกิดขึ้นได้ พอเราสั่งเตรียมน้องคงก้มลง อย่างไรก็ตาม ในอนาคตทาง บช.น. อาจจะมีการพิจารณาจัดฝึกอบรมให้ความรู้กับผู้สื่อข่าว เกี่ยวกับการใช้สัญลักษณ์ของตำรวจ ระหว่างการปฎิบัติของเจ้าหน้าที่ในการชุมนุมด้วย