ในหลวงทรงมีพระราชดำรัสกับคณะอัยการสูงสุด“ให้มีความความสำนึก ในหน้าที่-มีเหตุและผลเพื่อความยุติธรรมใประเทศชาติ”

วันนี้ 22 ต.ค.63 เวลา 19.18 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด นำ อัยการประจำกอง จำนวน 218 คน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ในโอกาสนี้ ร้อยโท ไชยา เปรมประเสริฐ รองอัยการสูงสุด นายวุฒิรัตน์ มีผดุง อธิบดีอัยการ สำนักงานคณะกรรมการอัยการ และนายธีระวัฒน์ พุฒิบูรณวัฒน์ เลขานุการอัยการสูงสุด ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย

ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชดำรัสโอกาสที่อัยการสูงสุดนำอัยการประจำกอง สำนักงานอัยการสูงสุดเข้าเฝ้า ๆ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ความว่า

“คำปฏิญาณที่ได้กล่าวไปนั้น ก็คือทัศนคติที่ดี ความสำนึกในหน้าที่ ความอดทน ความมีเหตุและผล และรู้จักกาลเทศะ โดยคำนึงถึงภาพรวมที่ดีแห่งความสงบสุขและยุติธรรมในประเทศของเรา ซึ่งทุกคนก็ได้รับการฝึก ศึกษา และได้เรียนรู้ เห็น ในสิ่งต่างๆ มาพอสมควร อย่างน้อยก็ทราบว่าอะไรมันถูก อะไรมันไม่ถูก อะไรจะเป็นสิ่งที่ดี เป็นสุขกับประชาชน กฎหมาย หรือขั้นตอนทางกฎหมายก็มีเป็นกฎอยู่แล้ว แต่การใช้กฎหมายให้ถูกต้องกับสถานการณ์โดยความยุติธรรม โดยมีวิจารณญาณและมีเหตุผล กฎหมายก็จะดีและผู้ได้รับผลจากฎหมายก็จะได้รับความยุติธรรม การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าจะหนุ่มๆ สาวๆ หรือแก่ๆ ทำงานมาหลายสิบปีแล้ว ขั้นตอนในการเรียนรู้ ขั้นตอนในประสบการณ์ก็มีเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ ข้อสำคัญ เมื่อมีประสบการณ์ หรือเมื่อเห็นอะไร สำคัญที่ว่าท่านจะต้องมีวิจารณญาณว่าอะไรมันถูก อะไรมันไม่ถูก อะไรมันจะเป็นสิริมงคล หรือเป็นผลทางบวกกับส่วนรวมหรือไม่ การมีกฎหมายอยู่ในมือ การเป็นผู้ใช้กฎหมาย หรือเป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมนั้น ก็ต้องมีความเข้มแข็งและมีเหตุผล แต่ข้าพเจ้าเชื่อว่า ท่านทั้งหลายได้รับการศึกษาและมีความตั้งใจ มีทัศนคติที่ดีอยู่แล้ว ก็คงน่าจะพิจารณาได้ว่าอะไรจะดีสำหรับประเทศ อะไรจะดีสำหรับส่วนรวม อะไรมันถูก อะไรมันไม่ถูก ซึ่งถ้ายึดตามคำปฏิญาณ ซึ่งก็เป็นทฤษฎีว่าน่าจะทำอย่างนั้น แต่ถ้ายึดด้วยทัศนคติที่ดี ท่านก็จะมีความสุข และทำให้ส่วนรวมมีความสุข ก็ขออำนวยพรให้ท่านทั้งหลาย มีสติปัญญา มีกำลังกาย กำลังใจ กำลังปัญญาที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้ด้วยดี เพราะว่าท่านก็ยังอยู่ในวัยฉกรรจ์กันทั้งนั้น ถ้าอยู่ในวัยฉกรรจ์ มีแรง มีกำลัง หาประสบการณ์ ศึกษาความเป็นมา ความต่อเนื่อง และปฏิบัติในทางที่ถูก เชื่อว่าไปได้ดีแน่ ขอให้โชคดี”