“โนเกีย” ได้จังหวะชูเรื่องความปลอดภัย ถล่ม “หัวเว่ย”

กรณี “หัวเว่ย” ถูกรัฐบาลอเมริกัน “แบล็กลิสต์” จนได้รับกระทบตามมามากมาย ซึ่งในด้านของสมาร์ทโฟน ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการนี้ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ “ซัมซุง” กับ “แอปเปิล” ส่วนด้านผู้ให้บริการติดตั้งโครงข่ายโทรศัพท์มือถือนั้นก็น่าจะเป็น “โนเกีย” และ “อิริคสัน” โดยเฉพาะประเด็นการติดตั้งโครงข่ายโทรศัพท์มือถือ 5G

มีรายงานด้วยว่า ทางค่ายโนเกีย ได้ออกมาเคลื่อนไหวกดดันต่อ “หัวเว่ย” ด้วยการเตือนเรื่องความเสี่ยงด้านความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีของหัวเว่ยและจวกการดำเนินธุรกิจที่ไม่เป็นธรรมของจีนในอดีต

ก่อนหน้านี้ Wall Street Journal รายงานเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์โดยบริษัท Finite State ระบุว่า อุปกรณ์โครงข่ายของหัวเว่ย มีแนวโน้มจะถูกโจมตีจากแฮกเกอร์ได้มากกว่าแบรนด์คู่แข่งอื่นๆ ซึ่งรายงานชิ้นนี้ถูกส่งมอบให้รัฐบาลสหรัฐและสหราชอาณาจักรแล้วด้วย

นักวิจัยได้นำเฟิร์มแวร์สนำหรับอุปกรณ์โครงข่ายสำหรับองค์กรของหัวเว่ย กว่า 10,000 ตัว มาทดสอบผ่านอุปกรณ์กว่า 500 ชิ้น ก่อนจะพบว่าเฟิร์มแวร์กว่า 55% มีช่องโหว่อย่างน้อยๆ 1 ช่องโหว่ ซึ่งถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่เจอในอุปกรณ์ของคู่แข่งค่อนข้างมาก โดยช่องโหว่เหล่านั้นรายงานระบุว่ามีสิทธิจะเป็น potential backdoor


Forbe รายงานว่า มากัส เวลดันโทลด์ หัวหน้าพนักงานฝ่ายเทคโนโลยีของโนเกียกล่าวกับบีบีซีว่า “ความเป็นธรรมกลับมาสู่ตลาดแล้ว ในอดีตมีความเสียเปรียบเกี่ยวกับการปฏิบัติที่จีนอนุญาตด้านการระดมทุน ซึ่งทางรัฐบาลจีนได้ให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อทำธุรกิจภายในประเทศกับหัวเว่ย และ ZTE


พร้อมกล่าวถึงการวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยที่อุปกรณ์ของหัวเว่ยมีแนวโน้มช่องโหว่มากกว่า โนเกียและอิริคสัน ว่า ตนได้อ่านรายงานชิ้นนั้นแล้ว และคิดว่าโนเกียทำงานได้ดีกว่าที่เคยทำมา และโนเกียเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า

ขณะเดียวกันระบุด้วยว่า โนเกียมีประวัติที่พิสูจน์มาแล้วกับการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้และมีคุณภาพสูวงต่อผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในยุโรป ซึ่งในประเทศสหราชอาณาจักรเรท่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ยังคงให้ความสำคัญสูงสุด และยังคงให้การดูแลที่เข้มงวดที่สุดเใื่อเทียบกับคู่แข่ง