โฆษกรัฐบาลเปิดภารกิจนายกฯไป ครม.สัญจรจังหวัดระยอง



  • ตรวจเยี่ยมศูนย์โควิด-19 สนามบินอู่ตะเภา
  • พบผู้ประกอบการท่องเที่ยว กลุ่มประมงเรือเล็ก
  • โต้ “มงคลิตติ์”ให้นายกฯลาออก

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภารกิจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการ นอกสถานที่ หรือครม. สัญจร ที่จ.ระยอง และจ.จันทบุรี ระหว่างวันที่ 24-25 สิงหาคมนี้ ว่า ในวันที่ 24 สิงหาคม เวลา 08.30-11.30 น. นายกฯ ร่วมประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 3 ร่วมกับผู้นำ 6 ประเทศ ประกอบด้วย จีน ไทย เวียดนาม ลาว กัมพูชา และเมียนมา เพื่อสร้างความเข้าใจและความร่วมมือในมิติต่างๆ ทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และการเคารพกฎระเบียบของแต่ละประเทศ รวมถึงการบริหารจัดการน้ำในลุ่มแม่น้ำโขงให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้โครงการกองทุนพิเศษแม่โขง ล้านช้าง ที่จะยกระดับความร่วมมือของแต่ละประเทศการพัฒนาทางบกทางน้ำ ให้มาสู่ประเทศลุ่มแม่น้ำโขงและยังมีความร่วมมือด้านการพัฒนาวัคซีนโควิดระหว่างไทยจีนและวัคซีนทั่วไป เพื่อให้ทุกประเทศสามารถใช้ได้ เป็นต้น


นายอนุชา กล่าวว่า เมื่อเสร็จสิ้นการประชุมนายกฯ จะลงพื้นที่จ.ระยอง โดยตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ที่อาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาอ.บ้านฉาง และในช่วงบ่าย นายกฯ เป็นประธานเปิดทางหลวงระหว่างเมืองหมายเลข 7 ช่วงพัทยา-มาบตาพุด และเยี่ยมชมตลาดสินค้าครบวงจร (ตลาด100เสา) เทศบาลบ้านเพ พร้อมพบปะตัวแทนผู้ประกอบการการท่องเที่ยวจ.ระยอง ชมนิทรรศการบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี ระยอง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ชมผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชนจาก 8 อำเภอ และร้านค้าภายในตลาด เทศบาลบ้านเพ ชมวิถีกลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านสวนสน – แกลง 1 ในการส่งเสริมอาชีพประมง การแปรรูปอาหารทะเล การฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์ทะเล และโครงการธนาคารปู พร้อมกับปล่อยแม่พันธุ์ปูม้าสู่ทะเล


สำหรับ วันที่ 25 สิงหาคม นายกฯ เป็นประธานสักขีพยานในการมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโชน์หรือที่อยู่อาศัยในพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา และผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ที่โรงแรมสตาร์คอนเวนชั่น จากนั้นเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสัดมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 3 (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง) และเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ทั้งนี้ เมื่อจบการประชุมครม. จะตรวจยื่มพื้นที่โครงการนำร่องการนำยางพารามาใช้เพื่อปรับปรุงเพิ่มความปลอดภัยทางถนน (Kick off) ที่ทางหลวงหมายเลข 3249 กม.3+164 ตอนควบคุม 0100 เขาไรยา-แพร่งขาหยั่ง ตำบลแสลง อ.เมือง จันทบุรี ก่อนเดินทางกลับกทม.


ผู้สื่อข่าวถามว่าการลงพื้นที่ของนายกฯ ที่จ.ระยอง จะพบกับกลุ่มเยาวชนเพื่อรับฟังความคิดเห็นด้วยหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่มีอยู่ในกำหนดการเนื่องจากภารกิจของนายกฯ มีค่อนข้างมาก เมื่อถามกรณีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวไลย์ เสนอให้นายกฯ ลาออกเพื่อยุติปัญหาการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ นายอนุชา กล่าวว่า ต้องรอการพิจารณาขคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาศึกษาปัญหาหลักเกณฑ์ แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพีระพันธุ์ สารีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จะออกมาในรูปแบบไหน เพราะกมธ. ชุดดังกล่าวก็มีตัวแทนของส.ส.ร่วมอยู่แล้ว

ส่วนการเรียกร้องของนายมงคลกิตติ์ อาจเป็นเพราะว่านายมงคลกิตติ์ไม่ได้เป็นกมธ. ในชุดดังกล่าว จึงขอให้รอดูบทสรุปก่อนหากสิ่งใดที่ยังติดขัด เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไรสามารถอภิปรายในสกาเชื่อว่าจะต้องทำความเข้าใจกับนายกฯ เพื่อลดความขัดแย้งให้มากที่สุด และหากมีการพูดคุยในสภาจะทำให้บรรยากาศดีขึ้น