โควิด-19 เยอรมนียังหนักหน่วง! ยอดติดเชื้อพุ่งเป็นประวัติการณ์ หลายรัฐตบเท้าหนุนบังคับฉีดวัคซีน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐท้องถิ่นหลายแห่งในประเทศเยอรมนี ให้การสนับสนุนข้อบังคับฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ขณะที่ยอดผู้ป่วยในเยอรมนีพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ระหว่างการแพร่ระบาดระลอกที่ 4

ทั้งนี้เมื่อวันอังคาร (23 พ.ย.64) นายวินฟรีด เครตช์มันน์ ประธานมุขมนตรีรัฐบาเดน-เวอร์ตเทมแบร์กทางตะวันตกเฉียงใต้ของเยอรมนี ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เออาร์ดี (ARD) ว่า ประชาชนจำเป็นต้องฉีดวัคซีน เยอรมนีจึงจะสามารถคลี่คลายสถานการณ์นี้ได้

อีกทั้งเมื่อวันจันทร์ (22 พ.ย.64) นายเครตช์มันน์ และ นายมาร์คุส เซอเดอร์ ประธานมุขมนตรีรัฐบาวาเรีย ระบุในบทความของหนังสือพิมพ์ ฟรังก์เฟอร์เทอร์ อัลล์เกไมน์ ไซทุง (Frankfurter Allgemeine Zeitung) ว่า การบังคับฉีดวัคซีนไม่ใช่การละเมิดสิทธิเสรีภาพ แต่เป็น “สิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อทวงคืนอิสรภาพ”

อย่างไรก็ตาม หลังจากยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายวันของเยอรมนีสูงทะลุ 65,000 ราย เป็นครั้งแรกช่วงสัปดาห์ก่อน สถาบันโรแบร์ตค็อก (RKI) ด้านโรคติดเชื้อของเยอรมนีตรวจพบผู้ป่วยเพิ่ม 45,326 ราย ในวันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนราว 13,000 ราย

นอกจากนี้รัฐชเลสวิก-โฮลชไตน์ ทางตอนเหนือของเยอรมนีแสดงการสนับสนุนข้อบังคับฉีดวัคซีนเช่นกัน โดยเมื่อวันที่23 พ.ย. โมนิกา ไฮโนลด์ รองประธานมุขมนตรีของรัฐระบุว่า ข้อบังคับข้างต้นเป็นหนทางที่ถูกต้อง ขณะที่สถานการณ์การในโรงพยาบาลย่ำแย่หนัก

ข้อมูลจากสมาคมสหวิทยาการเพื่อการดูแลผู้ป่วยวิกฤต และเวชศาสตร์ฉุกเฉินเยอรมัน (DIVI) ระบุว่า ยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ต้องรักษาตัวในแผนกผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้นราว 140 ราย ในระยะเวลา 24 ชั่วโมง มาอยู่ที่เกือบ 4,000 รายในวันอังคาร (23 พ.ย.)

โดยก่อนหน้านี้ นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี ได้ปฏิเสธการบังคับฉีดวัคซีน ขณะที่นายเยนส์ ชปาห์น รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ยังคงคัดค้านอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันอังคาร (23 พ.ย.) นายชปาห์นได้ให้สัมภาษณ์กับ ดอยต์ชลันด์ฟุงก์ สถานีวิทยุสาธารณะของเยอรมนีว่า “มันจะไม่ช่วยแก้ไขปัญหาร้ายแรงในปัจจุบันและกว่าจะเห็นผลมันก็สายไปเสียแล้ว”